กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง และความมั่นคงปลอดภัยในอาคารสูง

07 มิ.ย. 2023 พลัสทอล์ก


ในยุคที่ทุกสิ่งรอบตัวมีเทคโนโลยีอันแสนชาญฉลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง อาคารอัจฉริยะ (Smart Building) เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการเป็นอาคารสมัยใหม่ โดยการนำนวัตกรรมที่หลากหลายมาเชื่อมต่อให้อาคารสามารถสื่อสารกับผู้ใช้งาน โต้ตอบ เรียนรู้ และปรับสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างแม่นยำ อันจะนำมาสู่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ความปลอดภัยในอาคาร 

การใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าสำหรับเจ้าของหรือบริษัทบริหารอาคาร ซึ่งผู้บริหารจัดการอาคาร (Facility Management) ต้องมีความรู้ความเข้าใจถึงองค์ประกอบต่างๆ ของอาคารไม่ว่าจะเป็นรูปแบบอาคาร ระบบวิศวกรรมภายในอาคาร ลักษณะการใช้งาน ผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย 

รวมถึงงานด้านความเสี่ยงและความปลอดภัย สามารถวางแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน ดูแลความปลอดภัยของอาคาร และของผู้ใช้งานได้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการใช้อาคารให้เป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุด

นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า “ด้วยความจำเป็น ของการต้องมีอาคารสถานที่ (Facility) ซึ่งเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ขององค์กรที่หวังให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาวตามเป้าประสงค์ขององค์กร จากประสบการณ์ในการบริหารจัดการอาคารมากว่า 25 ปี 

พลัสฯ เข้าใจถึงความต้องการ ความซับซ้อนของอาคาร และนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในอาคาร จึงได้คิดค้น พัฒนาชุดความคิด วิธีการปฏิบัติงานของตนเองให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีกับการบริหารจัดการอาคารสถานที่และการดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร โดยได้นำมาตรฐานสากล (International Standard Practices) มาใช้เป็น Benchmarking ในการบริหารจัดการอาคาร”

ผลลัพธ์ที่เป็นคุณค่าจากการทำงานบริหารจัดการอาคาร คือ


1. ความมั่นใจในการใช้อาคาร 

เรื่องความมั่นคงปลอดภัยในการใช้อาคารของลูกค้า จัดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในระดับที่สูงของทุกอาคาร ทั้งในเหตุที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและการรักษาทรัพย์สิน การสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ด้านความมั่นคงของอาคาร แต่เนื่องด้วยอาคารแต่ละอาคารจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันตามลักษณะกิจกรรมที่เกิดขึ้นของแต่ละอาคาร 

ดังนั้น การจัดการให้เกิดความมั่นใจในการครอบครองหรือการใช้อาคารจะต้องมีการออกแบบและวางแผน ให้สอดคล้องกับปัจจัยเงื่อนไขของแต่ละอาคาร โดย ทีมงานพลัสฯ จะมีการกำกับแผน ติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบการดำเนินการตามที่ได้ออกแบบไว้เพื่อเตรียมการไว้ให้พร้อมเมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็น 

ตัวอย่างเช่น กรณีไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล เหตุลิฟต์ขัดข้อง เหตุรับมือน้ำท่วม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแผนการรับมือกรณีเหตุฉุกเฉิน และการเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ต่างๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง


2. ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน

การจัดการด้านความปลอดภัยและความเสี่ยงในอาคารสถานที่ (Facility) เป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากรและการจัดให้มีมาตรการ วิธีการ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงาน ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย สอดรับกับลักษณะธุรกิจ สอดคล้องกับระดับความสำคัญของผู้ใช้อาคาร ทางทีมงานพลัสฯ จะศึกษาสภาพและเงื่อนไขความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร และนำเครื่องมือ ประเมินงานด้านความปลอดภัยที่นิยมใช้ ได้แก่ 

Job Safety Analysis (JSA) มาช่วยวิเคราะห์และวางแนวปฏิบัติเพื่อการจัดการความเสี่ยงและการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในอาคาร เพื่อหลีกเลี่ยง ลด หรือขจัด รวมทั้งป้องกันควบคุมอันตรายในทุกขั้นตอนอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ของอาคาร 

โดยทีมงานจะมีการวางแผน สำรวจ ตรวจสอบระบบต่างๆ ตัวอย่างเช่น ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าจุดต่างๆ ที่อาจจะเป็นสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ สำรวจทางหนีไฟไม่ให้มีสิ่งกีดขวาง อุปกรณ์ในการดับเพลิงต้องมีความพร้อมใช้งาน รวมไปถึงการจัดอบรมให้ความรู้ และซ้อมหนีไฟเป็นประจำทุกปี เป็นต้น


3. ความปลอดภัยในระบบวิศวกรรมอาคาร

การจัดการด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับระบบวิศวกรรมอาคารควรดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้สามารถกำหนดการดำเนินการที่เหมาะสมกับเงื่อนไขเฉพาะ และสถานการณ์ที่จำเป็น โดยให้เกิดความสูญเปล่าน้อยที่สุด ประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ ประเภท ลักษณะ ชนิดของระบบ / อุปกรณ์ 

โดยทีมงานของพลัสฯ ได้นำ Standard Operating Procedure (SOP) มาใช้เป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานที่บอกถึงกระบวนการทำงานที่มีความเฉพาะของพลัสฯ SOP เป็นเอกสารที่แนะนำวิธีการปฏิบัติงานต่างๆ โดยระบุขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้องและมีทิศทางในแนวเดียวกัน สามารถปรับปรุงพัฒนาได้ตามความเหมาะสมของแต่ละอาคาร 

ที่สำคัญ คือ เพื่อลดความผิดพลาดและยังเพิ่มความมั่นใจในการดูแลของระบบวิศวกรรมอาคารให้กับผู้ใช้อาคารและเจ้าของอาคาร ประกอบไปด้วย

  • ระบบไฟฟ้าและสื่อสาร (Electrical & Communication System) 
  • ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (Air conditioning & Ventilation System) 
  • ระบบสุขาภิบาลและบำบัดน้ำเสีย (Sanitary & Wastewater Treatment System) 
  • ระบบป้องกันเพลิงไหม้ (Fire Protection System) 
  • ระบบขนส่งภายในอาคาร (Transportation System)


พลัสฯ มีมาตรฐานในการตรวจสอบ Check & Balance ประเมินความเสี่ยงอีกครั้งทุกขั้นตอนของการทำงานเป็นมาตรฐานสุดท้าย มาพร้อมคำแนะนำ (Suggestion) สิ่งที่ต้องทำการแก้ไขในจุดที่คิดว่ามีความเสี่ยง พร้อมมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมการทำงาน (Monitor Progress) และติดตามงานอย่างใกล้ชิด (Follow Up

พร้อมทั้งยังคงมุ่งมั่นเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำงาน ในงานบริหารอาคารให้ได้รับการยอมรับคุณภาพระดับสากล ที่ครอบคลุมทุกด้าน ตอบโจทย์ทุกมิติ ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้อาคารนั้น 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus

ค้นหาบริการเพิ่มเติม: บริหารงานนิติบุคคลคอนโดบริหารอาคารสถานที่ที่ปรึกษางานขายโครงการตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง , LIV-24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัย

หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: นิติบุคคลคอนโดนิติบุคคลอาคารชุดคอนโดสุขุมวิทคอนโดให้เช่าคอนโดจตุจักรขายคอนโดคอนโดทองหล่อทรัพย์สินรอการขายbangkok condo for rentคอนโดพระราม 4

วางใจให้ Plus Property ช่วยดูแลโครงการให้คุณ

เรื่องเด่นน่าสนใจ

Free E-book

undefined undefined undefined

undefined undefined undefined