อยู่คอนโดปลอดภัยจริงหรือไม่

11 พ.ย. 2019 พลัสทอล์ก


บทความประจำคอลัมน์ PropNow by Plus Property ที่ propholic.com
โดย คุณ นฤมล อาภรณ์ธนกุล  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (www.plus.co.th)

คอนโด เป็นที่อยู่อาศัยที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย ยิ่งหากเป็นผู้ที่ต้องอยู่อาศัยคนเดียว คอนโดก็ดูจะตอบโจทย์และเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ เพราะคอนโดมักมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ลักษณะทางกายภาพด้านพื้นที่ที่ส่องส่องดูแลง่าย ส่วนห้องพักอาศัยที่อยู่ติดๆ กัน จึงดูน่าจะอุ่นใจและปลอดภัยกว่า 

แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าคอนโดจะปลอดภัยไปซะหมด เพราะนอกจากปัจจัยภายนอกที่มาพร้อมกับตัวโครงการอย่างเรื่องระบบความปลอดภัย กล้องวงจรปิด รวมถึงเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับการรักษาความปลอดภัยแล้ว สิ่งที่หลายคนมักจะลืมนึกถึงไปก็คือต้องมีบุคคลที่มาทำหน้าที่ดูแลและควบคุมระบบเหล่านี้ให้สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องบริการหลังการขาย หลังจากย้ายเข้าแล้ว โครงการแห่งนั้นมีการบริหารจัดการความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานหรือไม่ การเลือกคอนโดที่มีผู้ดูแลโครงการหรือนิติบุคคลที่เป็นมืออาชีพและเคร่งครัดตรวจตรา ถือเป็นสิ่งสำคัญ


ภาพจากโครงการทากะ เฮาส์ คอยตรวจเช็คความพร้อมใช้งานของกล้องวงจรปิด


ภาพจากโครงการทากะ เฮาส์ กับการบริหารจัดการความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน

“ความปลอดภัย” ไม่ใช่เพียงเรื่องของความปลอดภัยจากมิจฉาชีพเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความปลอดภัยจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือภัยภิบัติต่างๆ ด้วย อย่างเช่นเรื่องของอัคคีภัย (ไฟไหม้) ซึ่งถือเป็นภัยใกล้ตัว แม้คนส่วนใหญ่รับรู้ถึงความร้ายแรงที่มีต่อชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากเหตุไฟไหม้ แต่ยังคงมีให้เห็นเป็นข่าวอยู่เสมอ 

โดยข้อมูลจากศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แสดงให้เห็นว่า ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้กว่า 15,000 ครั้ง โดยสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้น คือ ไฟฟ้าลัดวงจร คิดเป็นร้อยละ 62 ของการเกิดเหตุทั้งหมด รองลงมา คือ การจุดธูปเทียนทิ้งไว้ และการอุ่นอาหารทิ้งไว้


สถานการณ์อัคคีภัย ของประเทศไทย (ในรอบ10ปีที่ผ่านมา)

เพื่อความอุ่นใจตลอดการพักอาศัย จึงควรเลือกคอนโดที่มีระบบป้องกันที่ดี ทั้งในส่วนของที่พักอาศัยส่วนตัว รวมไปถึงพื้นที่โดยรอบบริเวณส่วนกลาง โดยปัจจุบันนอกจากกล้อง CCTV แล้ว ยังมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากมาย เช่น Face Scan ระบบสแกนใบหน้า เพื่อใช้ในการเข้าออกบริเวณโครงการที่สามารถระบุและยืนยัตตัวตนได้ชัดเจนและแม่นยำสำหรับเจ้าของร่วมหรือผู้พักอาศัย 

และยังสามารถเก็บบันทึกประวัติการเข้าออก ช่วยในการติดตามหากเกิดเหตุฉุกเฉิน SMART ACCESS QR code ระบบส่ง QR CODE ให้ผู้มาติดต่อ SCAN เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าโครงการ

แต่อุปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัยก็เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามต้องมีบุคคลที่มาดูแลและบริหารจัดการเครื่องมือเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรเลือกผู้ดูแลโครงการที่มีความเป็นมืออาชีพและเคร่งครัดตรวจตรา และ 

  • มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ มีความใส่ใจ เข้มงวด และมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น หน่วยงานตำรวจ สถานพยาบาล
  • สามารถควบคุมและตรวจตราการทำงานของรปภ. อย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ
  • มีทีมงานคอยตรวจสอบดูความเรียบร้อยภายในโครงการตลอดเวลา
  • มีระบบที่สังเกตการณ์และตรวจสอบระบบวิศวกรรมอาคาร เช่นระบบประปา ไฟฟ้า ลิฟท์ เครื่องจักร และแจ้งเตือนก่อนเกิดความบกพร่อง

มาตรฐานด้านความปลอดภัยควรเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ในการดูแลโครงการ สำหรับ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในบทบาทงานบริการ PLUS Living Management หรือการเป็นผู้บริหารโครงการที่พักอาศัย ก็ให้ความใส่ใจเรื่องการบริหารจัดการความปลอดภัยเช่นเดียวกัน 

โดยล่าสุดได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2562 ด้านการออกแบบบริการ (Service Design) ด้วยผลงาน LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง แห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและพลัสฯ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) 


แล้ว LIV-24 ช่วยให้ลูกบ้านปลอดภัยขึ้นได้อย่างไร?

LIV-24 เป็นการนำเทคโนโลยี IoT เชื่อมต่อกับระบบความปลอดภัย (Security) และระบบวิศวกรรมอาคาร (IoT Facility Management) ภายในตัวโครงการเข้ากับศูนย์ควบคุมจากส่วนกลาง ทำให้ทีมส่วนกลางสามารถดูแลและคอยให้การประสานงาน ช่วยเหลือ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงการช่วยควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จริงได้ด้วย 

ตัวอย่างเช่นระบบ Smart Meter ระบบใหม่ที่กำลังพัฒนาเพื่อนำมาใช้เพิ่มเติมในปี 2563 ที่สามารถตรวจสอบและแจ้งเตือน เมื่อมีการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าที่ผิดปกติในที่พักอาศัยในคอนโด หากพบความเสี่ยงด้านการใช้ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เหตุไฟไหม้ ทีมส่วนกลางจะทราบและติดต่อทีมผู้ดูแลในโครงการนั้นๆให้เข้าตรวจสอบและป้องกันเหตุได้ทันที



เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราอยู่อาศัยและใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจในทุกๆ วัน ดังนั้นหากจะเลือกคอนโดซักแห่ง นอกจากการดูเรื่องอุปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งในตัวโครงการแล้ว อย่าลืมพิจารณาเรื่องบริการและมาตรฐานความปลอดภัยในการดูแลหลังย้ายเข้าอยู่ด้วยนะคะ

𝐋𝐈𝐕-𝟐𝟒 บริการเทคโนโลยี ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวในไทยที่มีศูนย์ควบคุมฯ บริการครบวงจร ทำงานแบบไร้รอยต่อ เมื่อเกิดเหตุ ระบบจะประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าระงับเหตุและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว สนใจรายละเอียดการติดตั้ง LIV-24 ในโครงการของคุณ  02 688 7555 หรือ plus.co.th/liv24


ติดต่อทีมงาน PLUS Living Management

Free E-book

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ