รู้ก่อนเลี้ยง เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเลี้ยงสัตว์ในบ้านและคอนโด
‘รักเขาเหมือนลูก’
‘รักเขาเหมือนคนในครอบครัว’
คำนี้ไม่เกินจริง สำหรับกลุ่มคนที่รักสัตว์และมีสัตว์เลี้ยงอย่างแน่นอน
นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 การกักตัวและมาตรการการล็อกดาวน์ (Lockdown) ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากหันมาเลี้ยงสัตว์มากขึ้นเนื่องจากเป็นที่พึ่งคลายเหงาได้ดี ในวันที่ไม่สามารถพบเจอใครได้ แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 2 ปี แต่อัตราการเลี้ยงสัตว์กลับสูงขึ้นต่อเนื่อง
จนเกิดเป็น ‘Pet Humanization’ หรือการเลี้ยงสัตว์แบบสมาชิกในครอบครัวอย่าง ‘Pet Parenting’ ทำให้หลายคนหันมาเลี้ยงสัตว์ และอยากมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นด้วย
แต่บางครั้งก็ติดปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ทำให้ปัจจุบัน เทรนด์ที่อยู่อาศัยแบบเอื้อต่อสัตว์เลี้ยงมีเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Pet Lover
แต่ก็มีบางครั้งที่เจ้าของมักแอบเลี้ยงเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรักแม้จะไม่ได้รับอนุญาต และก็ยังมีปัญหาอีกมากของการอยู่ร่วมกับระหว่างคนที่เลี้ยงและไม่ได้เลี้ยงสัตว์
แล้วต้องเลี้ยงอย่างไร? อยู่แบบไหน? ต้องมีกฏระเบียบอย่างไรถึงจะมีความสุขทั้งคนและสัตว์เลี้ยงแสนรัก หาคำตอบของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ในบทความนี้
แอบเลี้ยงสัตว์ส่งผลเสียอย่างไร
มาเริ่มกันที่ข้อเสียของการแอบเลี้ยงสัตว์ นับเป็นเรื่องคลาสสิกที่ทำให้ทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้างได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน ส่วนมากการแอบเลี้ยง มักจะเป็นการแอบเลี้ยงของเจ้าของที่อาศัยอยู่คอนโด นอกจากผิดกฎแล้ว ลองมาดูกันว่ามีข้อเสียอะไรอีกบ้าง
1. ปัญหาเรื่องของกลิ่น การจัดการสิ่งปฏิกูล และเสียงของสัตว์เลี้ยง
นับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรื่องของสุขอนามัย อาจทำให้เกิดการปนเปื้อน แย่กับสุขภาพทั้งเจ้าของและเหล่าน้องๆ แสนรัก อีกทั้งกลิ่นและเสียงอาจรบกวนเพื่อนบ้าน จนสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ไม่ดีให้แก่กัน
2. เพื่อนบ้านที่แพ้ขนสัตว์
แม้จะไม่เจอ หากข้างห้องและเพื่อนร่วมชั้นเป็นภูมิแพ้ เจ้าสารก่อภูมิแพ้สามารถลอยในอากาศจนไปกระตุ้นให้เกิดการแพ้ขึ้นได้ นำไปสู่การถูกจับได้ในที่สุด
3. สัตว์เลี้ยงและเจ้าของเกิดความเครียด
ในตอนที่ต้องพาไปหาหมอ ก็ต้องแอบนำน้องใส่กระเป๋าเงียบๆ
หากมีคนเข้าลิฟต์แล้วน้องส่งเสียงล่ะ? จะเกิดอะไรขึ้น?
เพราะการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโดที่ห้ามเลี้ยง เป็นการฝ่าฝืนกฎและอาจถูกปรับหรือต้องนำน้องไปอยู่ที่อื่นได้
ความกดดันจากเรื่องของกลิ่นและเสียงที่อาจรบกวนข้างห้อง อาจทำให้เจ้าของเกิดความเครียด ยิ่งเวลาที่จะต้องออกจากห้องแล้วทิ้งสัตว์เลี้ยงให้อยู่เพียงลำพัง ก็กังวลว่าน้องส่งเสียงรบกวนหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ที่จำกัด สำหรับน้องๆ บางตัวอาจทำให้รู้สึกอึดอัดจนเกิดความเครียดจนอาจ ทำลายข้าวของ กัดเฟอร์นิเจอร์ได้
4. ผิดกฎระเบียบ ถูกปรับ หรือต้องย้ายออก
แม้การฝ่าฝืนกฎหรือข้อบังคับคอนโดจะไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่การแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโด ก็ยังเป็นเรื่องที่ผิดอยู่ดี แม้สัตว์ที่เราเลี้ยงจะไม่มีพิษ และไม่สามารถลอดช่องประตูออกมาได้ แต่หากข้างห้องผู้แพ้ขนสัตว์ร้องเรียน อาจลุกลามบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ทำให้ต้องใช้นิติบุคคลเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ในเมื่อผิดข้อบังคับตั้งแต่แรก การโต้แย้งของคุณก็อาจไม่มีน้ำหนักมากพอนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโด แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับทั้งตัวเจ้าของ น้องๆ และผู้อาศัยร่วมด้วยนั่นเอง
รักต้องรู้ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเลี้ยงสัตว์
หลังจากทราบข้อเสียของการแอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโดไปแล้ว มาดูกันว่า หากเราต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เราต้องเลือกคอนโดแบบไหน มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เพื่อให้เราและน้องๆ ได้อยู่แบบมีความสุข ไม่เดือดร้อนเพื่อนบ้านและไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ
1. หากจะอยู่คอนโดต้องเลือกคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้
หากจะอยู่คอนโดสำคัญที่สุดและเป็นข้อแรกที่ต้องคำนึงก่อนเลือกซื้อคอนโด หรือเช่าคอนโด ต้องหาคอนโดที่อนุญาตให้สามารถเลี้ยงน้องสัตว์ได้ โดยอาจเลือกจาก
- คอนโดที่มีประกาศ หรือชี้แจงอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าด้วยการโฆษณาเปิดโครงการ
- หรือข้อมูลทางเว็บไซต์ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทางโครงการนี้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้
เพราะนอกจากจะทำให้ คนที่เลือกซื้อ หรือเช่าคอนโดนี้ทุกคนรับทราบและยอมรับได้ที่มีเพื่อนบ้านเลี้ยงน้องหมาหรือแมว
โดยปกติแล้วคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้จะมีเงื่อนไข กฎการอยู่อาศัยร่วมกัน ดังนี้
- ส่วนใหญ่จะไม่ให้เลี้ยงพันธุ์ที่มีพฤติกรรมดุร้าย และอนุญาตเลี้ยงสัตว์พันธุ์เล็กเท่านั้นเช่นสุนัขพันธุ์ ชิวาว่า ปอมเมอเรเนียน หรือ เลี้ยงแมว
- ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษ สัตว์ปีก สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าสงวน และสัตว์อันตรายต่างๆ ทุกชนิด เช่น งู กิ้งก่า อีกัวน่า นก แมลงสายพันธุ์ต่างๆ
- มีการกำหนดขนาดและน้ำหนักเมื่อโตเต็มวัย มีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม มีใบรับรองสัตว์เลี้ยง (Pet Certificate) จากสัตวแพทย์
- จำกัดจำนวนตัวต่อพื้นที่ตารางเมตรของห้องชุด สูงสุดไม่เกินกี่ตัวก็แล้วแต่กำหนดของแต่ละโครงการ
- นอกจากนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อลงทะเบียนเลี้ยงสัตว์ในโครงการ ได้แก่ ค่ามัดจำความเสียหาย และค่าส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงต่อปี
- ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงสัตว์เมื่ออยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการต้องมีสายจูง และผู้ดูแลตลอดเวลา เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหลุดจากการดูแล
- เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงและผู้เลี้ยง ควรฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า และวัคซีนที่จำเป็นเพื่อป้องกันโรคติดต่อ
สำคัญมาก ต้องไม่ลืมที่จะศึกษากฎระเบียบของคอนโดก่อน ว่าอนุญาตสัตว์เลี้ยงประเภทไหนหรือสายพันธุ์อะไรได้ มีข้อจำกัดอะไรในการเลี้ยง รวมถึงการพาไปตรวจสุขภาพและการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้องกับนิติบุคคล เท่านี้ก็สามารถเพิ่มความสุขได้ทั้งกับตัวเราและเพื่อนรักสี่ขาแล้ว
โครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้บางที่จะมีฟีเจอร์สำหรับลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงด้วยนะ
2. โครงการควรมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ต้องการพื้นที่ในการพักผ่อน สัตว์เลี้ยงสี่ขาก็เช่นกัน
พื้นที่ส่วนกลางเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงของเราก็สำคัญด้วย โดยธรรมชาติแล้ว สัตว์เลี้ยงก็ต้องการพื้นที่ให้วิ่ง ออกกำลังกาย เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการและสุขภาพที่ดีให้กับน้องๆ ทั้งยังอาจทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ในโครงการ
เมื่อพาน้องๆ ไปเดินเล่นอย่าลืมใส่สายลากจูงตลอดเวลา และเก็บมูลสัตว์ ไปทิ้งที่ถังขยะสำหรับมูลสัตว์ที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ เพื่อบรรยากาศการอยู่อาศัยที่ดีของทุกคน
3. มีสถานพยาบาลหรือคลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยง และร้านกรูมมิ่งในบริเวณ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกเรื่องคือ โรงพยาบาลสัตว์ เพราะเรื่องฉุกเฉินหรือการเจ็บป่วยอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
คลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยง และร้านกรูมมิ่งก็เป็นเรื่องสำคัญ หากป่วยก็ใกล้มือหมอ สะดวกในการเดินทาง หรือจะเสริมความสวย ความหล่อให้กับน้องๆ ก็ไม่ยุ่งยากอีกด้วย
แนะนำโครงการเลี้ยงสัตว์ตามสไตล์เจ้าของ
บางคนชอบอยู่บ้าน
บางคนชอบอยู่คอนโด
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความชอบแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ มาดูโครงการเลี้ยงสัตว์ได้แต่ละแบบ ที่แบ่งตามความชอบกัน
คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ Pynn Pridi 20
มาเริ่มกันที่ คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ Low-Rise ใหม่ จากแสนสิริ ในดีไซน์ Modern classic ที่แสนเงียบสงบกับความเป็นส่วนตัว เพราะโครงการนี้มีเพียง 36 ยูนิต เท่านั้น
- ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงเพียง 1.7 กม.
- รายล้อมด้วยสถานพยาบาลสัตว์เลี้ยงเช่น โรงพยาบาลสัตว์สุขุมวิท SUKHUMVIT PET HOSPITAL เพียง 2.7 กม. เป็นต้น


สนใจ Pynn Pridi 20 ติดต่อพลัสฯ เพื่อรับข้อเสนอพิเศษหรือเยี่ยมชมโครงการ
คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ Park court Sukhumvit 77
อีกหนึ่งคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ห้องกว้างอย่าง Park court Sukhumvit 77 ภายใน T77 Community ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพโซนสุขุมวิท พร้อมพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนหย่อนใจในโครงการ ทั้งในตอนเช้า เย็น ของทุกวันหากพาน้องๆ ออกมาเดินเล่น รับรองได้พบปะเพื่อนใหม่
- ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุชเพียง 1 กม.
- ห่างจากโรงพยาบาลสัตว์แฮปปี้เพ็ท Happy Pet Hospital เพียง 5.1 กม.

ดูคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ Park court Sukhumvit 77 เพิ่มเติม คลิก
แนะนำโครงการบ้านเลี้ยงสัตว์ได้
โดยส่วนมากแล้ว โครงการบ้านมักเลี้ยงสัตว์ได้ มีพื้นที่สีเขียวและในบางที่อาจมี community สัตว์เลี้ยงและเจ้าของ รวมถึงผู้พัฒนาโครงการ (Developer) มีออกแบบโครงการรองรับกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์มากขึ้น บางทีอาจมีพิ่มฟังก์ชันจัดโซนสำหรับ Pet Zone และ Dog Toilet เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น
โครงการบ้านแนะนำ เศรษฐสิริ บางนา - สุวรรณภูมิ
บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Classic ขนาดบ้านเริ่มต้น 204 ตร.ม. พื้นที่กว้าง พร้อมให้เหล่าเจ้าสี่ขาได้วิ่งเล่นและนอนผึ่งพุง พร้อมพื้นที่สีเขียวจากส่วนกลาง ที่อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น
- คลับเฮาส์
- ฟิตเนส
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- ความปลอดภัยรอบรั้วโครงการทั้ง 24 ชม. มั่นใจได้
เดินทางก็แสนสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่และยังใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

ติดต่อพลัสฯ เพื่อเยี่ยมชมโครงการ เศรษฐสิริ บางนา - สุวรรณภูมิ หรือรับข้อเสนอพิเศษ
โครงการบ้านแนะนำ สราญสิริ ราชพฤกษ์ 346
- คลับเฮาส์
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- Co-Working Space
- พื้นที่สีเขียว สวนหย่อมในโครงการ ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจยามเช้า-เย็น
- ความปลอดภัยรอบรั้วโครงการทั้ง 24 ชม. มั่นใจได้
เติมเต็มทุกความสุขให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าได้ทุกวัน
ติดต่อพลัสฯ เพื่อเยี่ยมชมโครงการ สราญสิริ ราชพฤกษ์ 346 หรือรับข้อเสนอพิเศษ
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการเลือกซื้อหรือเช่าโครงการที่เลี้ยงสัตว์ได้ อีกทั้ง ข้อนี้เป็นส่วนประกอบเล็กๆ ที่อาจช่วยให้เลือกโครงการได้ง่ายขึ้น และสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับทั้งเรา สัตว์เลี้ยงที่รัก และไม่รบกวนผู้อื่นที่อยู่อาศัยในโครงการเดียวกัน แถมยังได้เพื่อนใหม่อีกด้วย
เพราะการได้อยู่ด้วยกันทำให้เป็นวันที่มีความสุข ‘บ้าน’ บางครั้งก็ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่คือ ‘ผู้คน’ และ ‘สัตว์เลี้ยง’
ใส่ใจทุกเรื่องการอยู่อาศัย เข้าใจทุกความสุข เราพร้อมดูแลคุณอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณสุขได้เต็มที่กับสิ่งที่รัก
พลัสฯ ผู้ช่วยมืออาชีพทุกเรื่องการอยู่อาศัยที่เข้าใจทุกความต้องการ