แนะวิธีการเตรียมตัวให้พร้อม รับมือเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทย
หากเกิดแผ่นดินไหว เมื่ออยู่บนอาคารสูงผู้ใช้อาคารต้องทำอย่างไร ศึกษาแนวทางรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินของผู้ดูแลอาคารได้ที่นี่
ปัจจุบันการใช้ชีวิตมีรูปแบบการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป จากอาคารแนวราบมาเป็นอาคารแนวสูงและมีขนาดใหญ่ ซึ่งอาคารสูงจะมีความสลับซับซ้อนของพื้นที่และงานระบบวิศวกรรมที่มากกว่า ดังนั้นหากเราเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องอาศัยหรือใช้ชีวิตในอาคารสูง ก็ควรต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เราเองมีความปลอดภัยในการใช้อาคารนั้นๆ
อย่างเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเมียนมา และความลึก 10 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 500 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี โดยเหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ช่วงเวลาเกิดได้
นอกจากจะมีเตือนภัยจาก Line Alert บัญชีแจ้งเตือนภัยพิบัติร้ายแรงแล้ว ควรต้องรู้วิธีเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการรับมือการเกิดแผ่นดินไหว
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้นำธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท วันนี้มีข้อแนะนำเบื้องต้น ทั้งในมุมของผู้ใช้อาคารที่ต้องดูแลตนเองเมื่อเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงในมุมของผู้ดูแลอาคารที่ทำการตรวจสอบสภาพอาคารสูงทั้งคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน เพื่อเตรียมความพร้อมอาคารให้ปลอดภัยทั้งโครงสร้าง และงานระบบวิศวกรรมอาคาร
แนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหวของผู้ใช้อาคาร
ภายในที่พักอาศัย หมอบลงกับพื้น ป้องกันสิ่งของตกใส่โดยการหลบใต้โต๊ะที่มีโครงสร้างแข็งแรงหรือที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ พร้อมเกาะไว้ให้แน่น ถ้าหากอยู่ไกลจากโต๊ะก็ให้หมอบลงกับพื้นและใช้แขนทั้งสองข้างป้องกันศีรษะและลำคอ โดยให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง หน้าต่าง และห้ามออกภายนอกที่พักอาศัยโดยเด็ดขาด
ภายนอกที่พักอาศัย ให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวน ซึ่งที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง
ขณะขับรถ ให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด ถ้าเกิดเสาไฟล้มทับให้รออยู่ภายในรถจนกว่าจะมีผู้อื่นเข้าไปช่วยเหลือ
อยู่ใกล้แนวชายฝั่ง ใช้หลักการ หมอบ ป้อง เกาะ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนหยุด ถ้าการสั่นสะเทือนนานถึง 20 วินาที หรือมากกว่า ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงเพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง หรือห่างจากชายฝั่งเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร หรือที่ที่สูงจากน้ำทะเลอย่างน้อย 30 เมตร และหลังเหตุแผ่นดินไหวสงบ ผู้ใช้อาคารไม่อยู่ใกล้พื้นที่อาคารชำรุดหรือผนังชำรุด ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งผู้ใช้อาคารควรมีการจัดเก็บของให้เป็นระเบียบ รวมถึงการสำรวจเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในห้องให้มีการยึดติดกับผนังหรือพื้นอาคารให้แน่นหนา ไม่วางสิ่งของที่น้ำหนักมากบนที่สูง เช่น ตู้ โต๊ะ เพื่อป้องกันสิ่งของหล่นทับ ในการปฏิบัติตัวขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว
ควรยึดหลัก 'หมอบ ป้อง เกาะ' ในการป้องกันตนเองจากแรงสั่นสะเทือน และรอจนกว่าจะมีผู้เข้าไปช่วยเหลือในกรณีที่ติดอยู่ในอาคารสูงและหนีไม่ทัน ที่สำคัญห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด เพราะอาจติดค้างจนเสียชีวิต เมื่อแผ่นดินไหวสงบ ค่อยออกจากอาคาร
แนวทางป้องกัน และการวางแผนรับมือแผ่นดินไหวของผู้ดูแลอาคาร
ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูงหรือบ้านเรือน ควรมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ พลัสฯ ด้วยประสบการณ์ในการดูแลอาคารขนาดใหญ่ มามากกว่า 25 ปี จึงมีข้อแนะนำให้มีการตรวจสอบอาคารอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำปีทุกปี และมีการตรวจสอบใหญ่ทุก 5 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด
ซึ่งเจ้าของอาคารต้องจัดให้มีผู้ตรวจสอบอาคารทำการตรวจสภาพอาคารตามระยะเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะอาคารเก่าทีก่อสร้างก่อนปี 2550 จะมีความเสี่ยงมากกว่า เนื่องจากเป็นการก่อสร้างก่อนที่จะบังคับให้อาคารต้องออกแบบต้านแผ่นดินไหว
พลัสฯ มีทีมวิศวกรที่ผ่านการรับรองทำการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและการทำงานของทุกระบบในอาคาร ทำแผนงานปฏิบัติการตรวจสอบ บำรุงอาคารและอุปกรณ์ของอาคาร ให้แก่เจ้าของอาคาร เพื่อเป็นแนวทางการตรวจบำรุงรักษา ระบุปัญหาต่างๆ และการบันทึกข้อมูลในการตรวจอาคาร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างมีความแข็งแรง และทุกระบบสามารถทำงานได้ตามปกติ
เตรียมความพร้อมสำหรับรับมือหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้า หลังเหตุแผ่นดินไหวสงบ ทางพลัสฯ ในเบื้องต้นมีการให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอาคาร ทำสำรวจความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น มีการตรวจสอบสิ่งต่างๆ ดังนี้
ตรวจสอบลิฟต์โดยสาร ถึงระบบการทำงานขึ้น-ลงจากล่างสุดถึงบนสุด ว่ามีการติดขัดหรือมีความสั่นสะเทือนผิดปกติหรือไม่
ตรวจสอบในช่องท่อน้ำแนวดิ่ง เพื่อตรวจว่ามีท่อแตกรั่วซึมหรือไม่ พื้นที่เก็บน้ำประปา ทั้งระหว่างอาคาร ดาดฟ้า และใต้ดิน
ตรวจสอบห้องเครื่องไฟฟ้าสายไฟฟ้า ตรวจว่ามีการลัดวงจร มีกลิ่นไหม้ มีความร้อน หรือมีสิ่งผิดปกติหรือไม่
ตรวจสอบกายภาพอาคารทั่วไป ตรวจสอบการร่วงหล่นของสิ่งของรอบอาคารเพื่อตรวจสอบว่าของที่ยึดกับตัว อาคาร เช่น เครื่องปรับอากาศ กระถางต้นไม้ วัสดุอาคาร มีการหลุดร่วงหรือไม่
นอกจากพลัสฯจะทำการตรวจสอบกายภาพและระบบโดยรวมทั้งหมดของอาคารแล้ว ยังมีการทำรายงานให้ลูกบ้านทราบถึงผลการตรวจสอบ และอัพเดตสถานการณ์ข่าวสารแผ่นดินไหวแบบใกล้ชิดและทำการประชาสัมพันธ์แนวการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องให้กับลูกบ้าน
ด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวมักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้อาคารและประชาชนโดยรอบอาคารเป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์อย่างถูกต้องได้ ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ให้ดูแลและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ที่สำคัญให้สังเกต ทำความคุ้นเคยทางออกฉุกเฉิน หรือทางหนีไฟที่ใกล้ตัวที่สุด หากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะได้สามารถหนีออกมาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ลดความเสี่ยงการสูญเสีย บาดเจ็บ และเสียชีวิต
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู