พลัสฯ ชวนคุณประหยัดไฟ และใช้พลังงานทางเลือก
เดือนเมษายนนี้ถือว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีก็ว่าได้ ทำให้รายจ่ายค่าไฟฟ้าของคนไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก วันนี้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำด้านการบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัยมากว่า 25 ปี มาแนะนำเทรนด์การใช้พลังงานสะอาดอย่าง โซลาร์เซลล์ (Solar Roof) ในโครงการบ้านและคอนโด
ในปัจจุบันโซลาร์เซลล์มีกระแสความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนทั่วโลกและในประเทศไทย หันมาตระหนักถึงการร่วมกันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ราคาของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาถูกลงมาก สามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีอายุการใช้งานนานถึง 25-30 ปี
โซลาร์เซลล์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟที่ราคาต่อหน่วยที่ปัจจุบันสูงขึ้นถึง 4.72 บาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 6 บาทภายใน 3 ปีข้างหน้า (ข้อมูลจาก : ธนาคารทหารไทย) ซึ่งจะยิ่งทำให้การติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาถึงจุดคุ้มทุน (Break-even) เร็วขึ้นได้ภายในระยะเวลาเพียงในเวลาเพียง 3 – 5 ปีเท่านั้น
สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยที่สนใจพลังงานทางเลือกนี้ พลัสฯ มีข้อแนะนำในเรื่องของการติดตั้งและดูแลบริหารจัดการระบบ Solar Roof Solution อย่างมืออาชีพ สำหรับบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่สนใจ
ก่อนอื่นต้องมีการขออนุญาต สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและการไฟฟ้าก่อน เนื่องจากต้องมีการดัดแปลงอาคารหรือเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า รวมถึงบริษัทฯที่จะเข้ามาทำการติดตั้ง ต้องมีความน่าเชื่อถือและขออนุญาตที่สำนักงานนิติบุคคลโครงการก่อนล่วงหน้า
การวางตำแหน่งที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ มักทำการติดตั้งไว้บนหลังคาซึ่งมีข้อดีช่วยทำให้บ้านเย็นสบายขึ้น เพราะแสงแดดไม่ส่องเข้าถึงตัวบ้านโดยตรง ทิศสำหรับการติดตั้งก็มีผลเช่นเดียวกันควรเลือกติดตั้งในทิศตะวันตก หรือตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นทิศทางที่จะรับแดดจัดได้ดีและมีช่วงเวลาในการรับแสงยาวนานกว่าทิศอื่นๆ ทำให้ได้รับพลังงานสูงในการผลิตกระแสไฟฟ้านั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้าน หรือคอนโดมิเนียมที่ต้องการติดตั้ง Solar Roof ต้องมีการสำรวจตรวจสอบในเรื่องของระบบไฟฟ้าเป็นสำคัญ เช่น ไฟฟ้า 1 เฟส หรือ Single Phase เป็นระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันอยู่ที่ 220 โวลต์ ซึ่งเท่ากับที่ใช้งานกันอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน นิยมถูกนำไปใช้กับบ้าน เคหสถานต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่
และไฟฟ้า 3 เฟส เป็นระบบไฟฟ้าที่มีแรงดัน 380 โวลต์ ซึ่งมากกว่าเฟส 1 อยู่ถึง 160 โวลต์เลยทีเดียว นิยมไปใช้กับอาคารตึกสูงหรือสถานที่ที่ต้องการไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อใช้สำหรับบ้านพักอาศัยนิยมใช้ตั้งแต่ขนาด 1 – 12 กิโลวัตต์ (kWp.) หรือ 1,000-12,000 วัตต์ ซึ่งก็สามารถเลือกขนาดให้เหมาะแก่การใช้งานได้ เป็นการช่วยลดภาระการใช้ไฟตอนกลางวันได้มาก 30-70%
หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียม จะมีการติดโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ส่วนกลาง ทางนิติบุคคลที่ดูแลพื้นที่จะเข้ามามีบทบาทในการดูแลแบบ Preventive Maintenance เป็นการบำรุงรักษาเชิงป้องกันให้อุปกรณ์โซลาร์เซลล์ทำงานได้ตามปกติ พนักงานมีการอบรมความรู้วิธีการใช้งานกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและช่วยแนะนำผู้พักอาศัยในการใช้บริการ
การดูแลรักษาต้องมีการทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ช่างอาคารตรวจเช็กอุปกรณ์ต่างๆ ของระบบ โซลาร์เซลล์ พร้อมทั้งดูแลเรื่องความสะอาด ทั่วๆไปก็ ปีละ 3 - 4 ครั้ง แต่ถ้าพื้นที่นั้นๆ มีฝุ่น หรือ สิ่งสกปรกมากกว่าปกติ ก็อาจต้องมีการล้างถี่มากขึ้น ใช้เพียงน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว
ข้อสำคัญห้ามขึ้นเหยียบ บนแผงโซลาร์เซลล์เด็ดขาด และทำการตรวจสอบทางกายภาพอยู่เสมอ เพื่อให้ระบบพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างสูงสุดแล้ว พลัสฯ ยังรวบรวมเคล็ดลับน่ารู้ที่ทำได้ง่ายด้วยตัวคุณเองที่จะช่วยประหยัดไฟภายในบ้านอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ก่อนอื่นเราควรสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกันก่อนว่ามีอะไรกันบ้างที่สามารถประหยัดไฟกันได้ อาทิ
หลอดไฟ ที่ใช้ภายในบ้าน เลือกใช้หลอดไฟที่กำลังวัตต์เหมาะกับการใช้งาน ควรใช้หลอด LED ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ รวมถึงปิดไฟทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน หรือเลือกใช้โคมไฟตั้งโต๊ะหากต้องการแสงสว่างเฉพาะจุด
เตารีด ควรปรับความร้อนให้เหมาะกับชนิดของผ้า ควรรีดผ้าคราวละมากๆ โดยรีดผ้าบางก่อนแล้วถึงรีดผ้าหนาและดึงเต้าเสียบออกก่อนรีดเสร็จ 2-3 นาทีเพื่อการประหยัดไฟ
พัดลม เปิดระดับความเร็วลมพอควร ควรเปิดหน้าต่างรับลมร่วมด้วย
ตู้เย็น เลือกตู้เย็นที่ขนาดเหมาะกับครอบครัว ตั้งตู้เย็นให้หลังตู้ห่างจากผนัง 15 ซ.ม.หรือมากกว่า ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่นำของร้อนใส่ตู้เย็น ดูแลขอบประตูไม่ให้รั่วเพื่อรักษาระดับความเย็นภายในตู้
เครื่องซักผ้า ควรใส่ปริมาณผ้าให้เหมาะสมกับกำลังเครื่อง
เครื่องทำน้ำอุ่น ปรับความร้อนให้เหมาะสมกับร่างกาย ปิดวาล์วทันทีเมื่อไม่ใช้งาน และปิดสวิตช์ของเครื่องทำน้ำอุ่นเมื่อไม่ใช้งานแล้ว
เครื่องปรับอากาศ ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง ช่วยประหยัดค่าไฟไปถึง 5.7% เลยทีเดียว ตั้งอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเล็กน้อย เปิดพัดลมช่วย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้แอร์ในห้องพื้นที่เปิด และอย่าลืมตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้า จะทำให้ประหยัดมากขึ้นไปอีก
ที่สำคัญควรถอดปลั๊กทุกครั้งที่ไม่ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด จะช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น และทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง:
-
พลัสฯ ต่อยอดการดูแลลูกบ้านรับดีมานด์รถไฟฟ้า ส่งเสริมพลังงานสะอาด
-
กรุงเทพกรีฑา ที่สุดของ Community ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
-
ตัวอยู่ไกล ใจห่วงบ้าน มัดรวม Checklist เตรียมความปลอดภัยให้บ้านช่วงหยุดยาว

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 25 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus