ระบบรักษาความปลอดภัยอสังหาฯ คืออะไร? สำคัญแค่ไหน? มีกี่รูปแบบ?
ทำเลไม่ใช่ปัจจัยแรกในการเลือกที่อยู่อาศัยอีกต่อไป… เพราะหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของการเลือกที่พักอาศัยของคนรุ่นใหม่ คือ “ระบบรักษาความปลอดภัย” ที่ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นพลัสฯ จะมาไขข้อสงสัยว่าระบบรักษาความปลอดภัยอสังหาฯ คืออะไร? สำคัญต่อพื้นที่อย่างไร มีทั้งหมดกี่รูปแบบ พร้อมตอบข้อสงสัยว่าสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของอสังหาฯ ได้จริงหรือไม่?
ไขข้อสงสัย ระบบรักษาความปลอดภัย คืออะไร?
ระบบรักษาความปลอดภัย คือ ระบบที่มีไว้เพื่อดูแลและป้องกันภัยคุกคามหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดยจะครอบคลุมทั้งข้อมูลต่างๆ บุคคล อาคารสถานที่ สินทรัพย์ สวัสดิการ และทรัพย์สินมีค่า มอบความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย ตลอดจนผู้ใช้งานพื้นที่
โดยระบบรักษาความปลอดภัยจะมีทั้งการใช้งานกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ภายในโครงการ เพื่อคอยสอดส่องและบันทึกเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเอาไว้ การใช้คีย์การ์ดหรือระบบสแกนนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนผู้เข้าพื้นที่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ผ่านการอบรมคอยช่วยตรวจตราดูแลและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งครอบคลุมไปถึงการทำร้ายร่างกาย การทะเลาะวิวาท การบุกรุก หรือการโจรกรรม
กล่าวได้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยนั้นจะช่วยมอบความรู้สึกอุ่นใจให้คนที่ใช้พื้นที่ได้ทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยเองและกลุ่มที่ใช้เพื่อเชิงพาณิชย์
อีกทั้งเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยยังนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์อื่นๆ ได้ เช่น ระบบ IoT ที่มอนิเตอร์ระบบวิศวกรรมอาคาร การจัดการจราจร การควบคุมกฎระเบียบและระบบต่างๆ ภายในอาคาร หรือแม้แต่การจัดการพลังงาน อย่างการตรวจสอบความปลอดภัยและประสานงานเพื่อระงับเหตุฉุกเฉิน ป้องกันและแจ้งเตือนเมื่อระบบน้ำหรือระบบไฟฟ้าทำงานผิดพลาด
หรือเมื่อถึงเวลาที่ต้องตรวจสอบหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ภายใน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของอากาศซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพและช่วยประหยัดพลังงาน โดยในท้ายที่สุดแล้วระบบรักษาความปลอดภัยสามารถะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับโครงการได้อย่างมหาศาล
ในปัจจุบันกล่าวได้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกของผู้อยู่อาศัยก็ว่าได้ เนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนผ่านทำให้ “ทำเล” ไม่ใช่เหตุผลหลักในการเลือกอีกต่อไป คนส่วนมากมักพิจารณาในแง่ของฟังก์ชันต่างๆ ของที่อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ทั้งพื้นที่ใช้สอย สภาพแวดล้อม คุณภาพของวัสดุ ราคา
รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ควบคู่กับการดูแลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ต้องผสานงานจนทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เพื่อรองรับกระแสการทำงานแบบ Work From Home มากขึ้น หากระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม อาจมอบความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้
เช่น ผู้ไม่ประสงค์ดีแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ สัญญาณเตือนไฟไหม้หรือไฟฉุกเฉินไม่ทำงานในเวลาเกิดเหตุ ขาดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยหรือไม่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานเมื่อเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งหมดนี้ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ระบบรักษาความปลอดภัยแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบหลัก
1.ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้ประตูคีย์การ์ดและสแกนนิ้วมือ
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ โดยทุกคนจำเป็นต้องยืนยันตัวและบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อป้องกันและคัดกรองบุคคลภายนอกไม่ให้เข้ามายังพื้นที่ได้ โดยเหมาะทั้งอาคารเพื่อการอยู่อาศัยที่มีคนพลุกพล่านและการใช้เชิงพาณิชย์อย่างออฟฟิศ
สามารถอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ทุกคน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยแบบนี้ยังมีข้อจำกัดเมื่อเกิดการโจรกรรม เพราะไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนความปลอดภัย
2.ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้กล้องวงจรปิด
การติดกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ทั่วสถานที่ ช่วยให้สามารถตรวจดูพื้นที่ต่างๆ ได้ สามารถสังเกตและบันทึกความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้และสามารถระงับเหตุการณ์ได้ทันท่วงที โดยระบบกล้องวงจรปิดถือว่าเป็นที่นิยมทั้งการรักษาความปลอดภัยในครัวเรือนและเชิงพาณิชย์อย่างมาก แต่ข้อจำกัดคือจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจดูตลอดเวลาเพื่อป้องกันเหตุ และส่วนมากแล้วมักใช้เป็นหลักฐานเมื่อเกิดเหตุแล้ว เพราะต้องเกิดเหตุก่อนถึงจะย้อนดูได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเทคโนโลยีความปลอดภัย LIV-24 มีระบบ AI CCTV ANALYTIC ที่ช่วยจับความเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต หรือควันไฟ สามารถตรวจจับได้ แม้แต่ในจุดอับที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ช่วยให้สามารถป้องกันก่อนเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงทีถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาลดข้อจำกัดของการใช้กล้องวงจรปิดลงได้
3.ระบบรักษาความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่ รปภ.
ถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่หลายพื้นที่นิยมใช้กัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่มักช่วยระงับเหตุไม่พึงประสงค์ได้ทันท่วงที ช่วยแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ในเบื้องต้นได้ อีกทั้งยังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งาน จึงช่วยมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้พื้นที่ได้
การรักษาความปลอดภัยที่นิยมใช้ระดับต้นๆ เนื่องด้วยหลายเหตุผล อาทิ เมื่อเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ สามารถระงับเหตุเบื้องต้นได้ และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่มาติดต่อได้ดีกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดอย่างการใช้งบประมาณที่สูงกว่าระบบอื่น ควบคุมได้ยาก และมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้ง่ายที่อาจเกิดขึ้นจากคน
ซึ่ง LIV-24 มีระบบ REAL TIME GUARD TOUR ที่จะคอยตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของ รปภ. เพื่อให้แน่ใจว่าลูกบ้านภายในโครงการจะได้รับการดูแลในด้านความปลอดภัย และได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีตลอด 24 ชม.
4.ระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์
ระบบที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีแจ้งเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์กับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง โดยเป็นระบบรักษาความปลอดภัยขั้นที่สูงที่สุด เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเจ้าหน้าที่จะเข้ายับยั้งเหตุทันทีและช่วยประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง รถพยาบาล รวมถึงการแจ้งไปยังผู้ดูแลพื้นที่เพื่อให้รับทราบ
โดย LIV-24 มีระบบ SAFETY SYSTEM ที่ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ภายในอาคารให้พร้อมใช้งาน เช่น ลิฟท์โดยสาร ระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ หากเกิดเหตุขัดข้องจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ LIV-24 เพื่อดำเนินการตรวจสอบและประสานงานระงับเหตุทันที
5.ระบบ IOT MANAGEMENT SYSTEM
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้เทคโนโลยี IoT Facility Management เข้ามาช่วยจัดการระบบอาคารต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละด้านและลดค่าใช้จ่ายได้ เช่น
PREVENTIVE MAINTAINANCE ระบบดูแลเรื่องการซ่อมบำรุงสาธารณูปโภคให้มีเสถียรภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ผ่านการตรวจสอบรอบระยะเวลาการทำงานของระบบและอุปกรณ์ต่างๆ และแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อใกล้ถึงรอบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ ในระบบน้ำ ไฟ ลิฟต์ และเครื่องจักรทั้งหลาย
SAFETY SYSTEM ระบบตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ภายในอาคาร ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เช่น ลิฟต์โดยสาร สัญญาณเตือนอัคคีภัย หากเกิดเหตุขัดข้องจะส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่อย่างอัตโนมัติเพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขในทันที
WATER MANAGEMENT ระบบที่ดูแลจัดการเรื่องน้ำ ทั้งปั๊มน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย พร้อมระบบแจ้งเตือน เมื่อระดับและการไหลของน้ำผิดปกติหรือเมื่อเกิดน้ำรั่ว
ELECTRICAL MANAGEMENT ระบบการจัดการไฟฟ้า ที่คอยดูแลเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าภายในอาคารให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผ่านการแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อวงจรไฟฟ้าเกิดปัญหา แรงดันไฟฟ้าสูง หรือต่ำกว่าปกติ
AIR QUALITY MANAGEMENT ระบบการจัดการคุณภาพอากาศ ผ่านการวิเคราะห์อุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ค่าฝุ่นทั้งขนาดใหญ่และเล็กอย่าง PM2.5 รวมไปถึงสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (TVOC) เพื่อนำมาประมวลผลและปรับปรุงคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ทุกคนในอาคาร
สำหรับ LIV-24 เทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะจากศูนย์กลางและจัดการระบบวิศวกรรมอาคารเต็มรูปแบบ โดยมี REAL TIME CONSULT AND ANALYSIS ระบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน สั่งการผ่านศูนย์กลาง SMART COMMAND CENTRE ที่ช่วยประสานงานระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ได้
พร้อมยังมี PROFESSIONAL AGENT ON DUTY หรือเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์กลางที่คอยเฝ้าระวังเหตุ วิเคราะห์การแจ้งเตือนต่างๆ ประสานไปยังหน้างานเพื่อป้องกันและระงับเหตุได้ทันที นอกจากนี้ยังมี INCIDENT REPORT หรือการรายงานการจัดเก็บข้อมูลจากระบบต่างๆ นำมาเพื่อประมวลผล วิเคราะห์ และวางแผนปรับปรุงหรือการซ่อมบำรุง รวมถึงการเพิ่มจุดเฝ้าระวังจุดอับที่มีโอกาสเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ยังมี EMERGENCY ASSISTANT หรือเจ้าหน้าที่ประสานงานไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้
ระบบรักษาความปลอดภัยช่วยเพิ่มมูลค่าของอสังหาฯ ได้จริงหรือไม่?
LIV-24 ระบบรักษาความปลอดภัยสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ได้ ทั้งในด้านการมอบความปลอดภัย ความไว้วางใจ และยกคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้อยู่อาศัยและใช้งานพื้นที่มอบความอุ่นใจให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ทำให้ไม่ต้องกังวลต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
อีกทั้ง LIV-24 ยังมีการรักษาความปลอดภัยแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Preventive Measure) สามารถตรวจจับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในโครงการและแก้ไขปัญหาได้ และระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ก่อนจะสร้างความเสียหายขนานใหญ่ ที่ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินที่มีมูลค่าเท่านั้นแต่อาจรวมไปถึงชีวิตที่ไม่สามารถประเมินค่าได้อีกด้วย
ยิ่งในตอนนี้ที่เทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยผนวกเข้ากับ IoT หรือการเชื่อมโยงเข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตจนทำให้เกิด Smart Building หรือรูปแบบของอาคารที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการดูแลความปลอดภัยและบริหารจัดการอาคารอย่างชาญฉลาด ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอาคารพาณิชย์ได้ทั้งการเรียกเก็บค่าเช่าได้สูงขึ้น
โดยปัจจุบันนี้ LIV-24 ได้รับความไว้วางใจจากโครงการที่พักอาศัยแนวราบ เช่น บ้านแสนสิริ พัฒนาการ, BuGaan, นาราสิริ และโครงการที่พักอาศัยแนวสูงอย่างโครงการคอนโด KHUN by YOO, THE MONUMENT Thong Lo, XT ห้วยขวาง XT เอกมัย นอกจากนี้ยังมีโครงการเชิงพาณิชย์หลากหลายรูปแบบ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงเรียน โรงแรม โชว์รูม เช่น โตโยต้า ขอนแก่น (TKK GROUP), โรงแรม The Standard Hua Hin, รักษ Rakxa, โรงเรียนสาธิตพัฒนา หรือ Depot
*หมายเหตุ: เงื่อนไขการดูแลความปลอดภัยขึ้นอยู่กับ Features และ Package ที่โครงการเลือกใช้
กล่าวได้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยอสังหาริมทรัพย์สำคัญอย่างมาก เพราะไม่ได้ครอบคลุมเพียงแค่การรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ได้ สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์หรืออาคารเพื่อการพาณิชย์ที่กำลังมองหาเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ LIV-24 พร้อมให้คำแนะนำและออกแบบบริการด้านความปลอดภัยให้ตอบโจทย์แต่ละพื้นที่อย่างลงตัว
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2022 นับได้ว่าเป็นปีทองสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยภาพรวมถือว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเผชิญกับปัญหาซบเซาจากพิษโควิด-19 มาอย่างยาวนาน เชื่อว่านักลงทุนหรือใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ในฝันสักหลัง คงมีโครงการบ้านหรูในใจอยู่แล้ว อ่านเพิ่มเติม
LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ เพื่อ Commercial Building แห่งอนาคต
อาคารเพื่อการพาณิชย์ หรือ Commercial Building เป็นธุรกิจอีกประเภทหนึ่งที่ถือว่ามีความหลากหลายตั้งแต่ลักษณะของอาคาร วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เป็นสถานที่ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า ซึ่งมีการใช้งานพื้นที่สำหรับรองรับคนจำนวนมากที่หมุนเวียนเข้ามาใช้อาคารในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล และยังรวมไปถึงอาคารสำนักงาน โรงงาน โกดัง และโรงเรียน เป็นต้น อ่านเพิ่มเติม
IoT กับ วงการอสังหาฯ แห่งอนาคต ไม่มี....อยู่ได้หรือไม่
ในยุค Digital Transformation เทคโนโลยีคือปัจจัยสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเราจะได้ยินเรื่อง Property Technology หรือพร็อพเทค บ่อยๆ โดยมักเป็นเทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้สำหรับเสริมประสิทธิภาพการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ตั้งแต่การบริหารระบบข้อมูล การออกแบบโครงการ การก่อสร้าง การสนับสนุนการซื้อขาย การบริหารและให้บริการภายในโครงการ และอีกเทคโนโลยีที่ปัจจุบันมีการพูดถึงมากขึ้นและมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว คือ IoT (Internet Of Thing) อ่านเพิ่มเติม
𝐋𝐈𝐕-𝟐𝟒 บริการเทคโนโลยี ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวในไทยที่มีศูนย์ควบคุมฯ บริการครบวงจร ทำงานแบบไร้รอยต่อ เมื่อเกิดเหตุ ระบบจะประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าระงับเหตุและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว สนใจรายละเอียดการติดตั้ง LIV-24 ในโครงการของคุณ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/liv24
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู