บริหารจัดการที่อยู่อาศัยอย่างไร ให้ผ่านฝนนี้ไปด้วยความปลอดภัย

21 ก.ค. 2022 พลัสทอล์ก


ในช่วงนี้เข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว จะเห็นได้ว่ามีฝนตกแทบทุกวัน ซึ่งทำให้หลายๆ คนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการดูแลรักษาที่พักอาศัยในช่วงนี้ วันนี้เราได้กูรูตัวจริงในการดูแลบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัยอย่างมืออาชีพจากทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่จะมาช่วยแนะนำการเตรียมความพร้อมรับมือกับฤดูฝนกันว่าต้องมีจุดไหนที่ต้องหมั่นดูแลกันบ้าง


พลัสฯ ด้วยประสบการณ์การดูแลบริหารโครงการที่พักอาศัยกว่า 270 โครงการ ปัญหาที่พักอาศัยในเมืองไทยส่วนใหญ่ที่ต้องรับมือในช่วงหน้าฝนก็คือปัญหาน้ำท่วมขัง และน้ำฝนที่สาดเข้ามาในบ้าน หรือเกิดปัญหาการรั่วซึมตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และในเรื่องของความชื้นรวมถึงปัญหาแมลงรบกวนที่มาจากน้ำท่วมขัง 

 สำหรับการดูแลพื้นที่ส่วนกลาง พลัสฯ แนะนำให้มีการหมั่นสำรวจตรวจสอบในบริเวณที่พักอาศัยตรงพื้นที่ที่รับน้ำฝนตามจุดต่างๆ เช่น สวนบนอาคาร ดาดฟ้า สระว่ายน้ำ ส่วนพื้นที่บริเวณบ้าน หรือบริเวณห้อง จุดที่ต้องโฟกัสมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ผนัง พื้น ประตู หน้าต่าง รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่น้ำฝนสาดเข้ามาสามารถสร้างปัญหาได้ เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จากประสบการณ์ของพลัสฯ กว่า 25 ปี ขอแนะนำแนวทางในการดูแลบ้านและโครงการคอนโดดังนี้

บ้านเดี่ยว

ควรมีการตรวจเช็กรอยรั่วซึมแตกร้าวของหลังคา ฝ้า ผนัง จุดที่เป็นแนวป้องกันน้ำฝนของบ้าน เพราะถ้าเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าในตัวบ้านแล้ว อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ตัวบ้านและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ รวมถึงควรมีตรวจเช็กและทำความสะอาดรางน้ำ – ท่อระบายน้ำอยู่เสมอ ไม่ละเลยปล่อยให้มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือเศษขยะเอาไปอุดตันปิดกั้นทางไหลของน้ำเพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนเกิดการอุดตันจนทำให้น้ำในทางระบายล้น 

อาจทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปรั่วซึมหรือท่วมขังภายในบริเวณบ้านได้ สำหรับบ้านที่มีสวนหรือปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ ก็อาจจะต้องดูแลจัดการตัดแต่งกิ่งไม้รอบๆ บ้านให้สั้นลงเพื่อป้องกันเหตุที่กิ่งไม้จะเกิดการหักโค่น หล่นมาทับตัวบ้านได้ ถ้าหากเกิดสถานการณ์ลมพายุฝนตกหนัก นอกจากนี้หลังฝนตกการทำความสะอาดขัดล้างพื้นเพื่อขจัดคราบตะไคร่สีเขียวที่เกาะติดอยู่บนพื้นภายนอกก็เป็นอีกเรื่องที่จะสำคัญ 

 ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานด้วยจะเกิดการสะสมและทำความสะอาดได้ยาก โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้าน จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มอีกด้วย

คอนโดมิเนียม

ปัญหาลำดับต้นๆ ของคนอาศัยในคอนโด คงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำรั่ว น้ำซึม โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าต่างตามรอยซิลิโคนหรือรอยต่อของบริเวณตึก ในส่วนนี้อาจจะต้องสังเกตจากคราบน้ำบนผนังและเพดาน และรีบดำเนินแก้ไขทันทีด้วยการขูดซิลิโคนเก่าออกแล้วลงซิลิโคนยาแนวใหม่แทน เพราะน้ำฝนอาจจะก่อความเสียหายให้กับผนังและวอลล์เปเปอร์ภายในห้องได้ อีกพื้นที่ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษคือบริเวณพื้นที่ระเบียง 

โดยเฉพาะรอบๆ ของท่อระบายน้ำต้องไม่มีสิ่งกีดขวางมาอุดตันทางระบายน้ำเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันน้ำท่วมขังในหน้าฝนได้เป็นอย่างดี และอีกปัญหาที่มักตามมาหลังจากฤดูฝน คือ การเกิดเชื้อรา ถือเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้อยู่อาศัยคอนโดเพราะนอกจากจะเกิดคราบราดำๆไม่น่ามองแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับทางเดินหายใจอีกด้วย 

โดยจุดที่ควรระวังได้แก่จุดที่เกิดคราบน้ำรั่ว เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดที่บวมน้ำ รวมไปถึงจุดอับต่างๆ ที่กักเก็บความชื้นได้ง่าย เช่น ภายในตู้เสื้อผ้าหรือตามซอกต่างๆ ถ้ามีเชื้อราคราบดำ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5-7% แอลกอฮอล์เข้มข้น เช็ดทำความสะอาดในบริเวณนั้น


ในส่วนการบริหารจัดการโครงการของ Plus Living Management ในช่วงฤดูฝน ไม่ว่าฝนจะหนักหรือเบา ก็มีการวางแผนดูแลป้องกันปัญหาทุกจุดที่ลูกบ้านกังวลอย่างเป็นระบบ มีทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว สำหรับหน้าฝนนี้ ทางทีมพลัสฯ เพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้นให้มีเจ้าหน้าที่ทำการเดินตรวจสอบความเรียบร้อยในบริเวณพื้นที่รับน้ำฝนตามจุดต่างๆ 

 โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำรั่วซึม น้ำขัง และไฟรั่ว รวมไปถึงมีการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทางทีมช่างอาคารจะทำการประเมินสถานการณ์ และเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วโดยในช่วงที่ฝนเริ่มตกหนักก็จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่เวรคอยตรวจสอบจุดรับน้ำบนอาคารว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ทั้งก่อน และหลังฝนตก เป็นการทำงานแบบแผนเชิงป้องกัน Preventive Maintenance อยู่เสมอ เช่น การสำรวจระดับปริมาณน้ำในท่อระบายน้ำ ตรวจสอบการทำงานระบบปั๊มน้ำ และเครื่องสูบน้ำ โดยเฉพาะช่วงระยะเวลากลางคืนที่เกิดฝนตกหนัก 


รวมถึงมีการเตรียมการขุดลอกท่อ รางระบายน้ำภายในโครงการ สำรวจพื้นที่ลำรางสาธารณะ กำจัดขยะ เศษวัสดุ ไม่ให้อุดตันขวางทางน้ำ สำรวจพื้นที่รองรับน้ำ บ่อพักน้ำ เพื่อระบายน้ำออกได้อย่างทันท่วงที รวมถึงซักซ้อมการติดตั้ง และทดสอบการใช้งานกำแพงกั้นน้ำ กรณีเกิดเหตุน้ำท่วมฉุกเฉิน ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดลอกคูคลองใกล้โครงการ รวมถึงจัดเตรียมเครื่องระบายน้ำ 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ข้างโครงการ สำหรับทีมปฏิบัติการ เช่น แม่บ้านจะมีการเพิ่มรอบในขณะที่เกิดฝนตกคอยเช็ดถูพื้นทางเดินให้แห้งอยู่เสมอ เช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งให้แห้ง ป้องกันเชื้อรา เช็ดทำความสะอาดกระจกหลังจากฝนตกให้สะอาดไม่ทิ้งคราบ 

เจ้าหน้าที่คอยตักเศษใบไม้ ดูดตะกอนสิ่งสกปรก หรือ เศษต่างๆ ที่สระว่ายน้ำ ขัดล้างพื้นเพื่อไม่ให้คราบตะไคร่น้ำ หรือคราบดินเกาะสะสมป้องกันอุบัติเหตุลื่นล้ม สำหรับในช่วงฝนตกแมลงรบกวนที่มักเจอคือ มด แมลงสาบ และปลวก ที่มักจะอพยพตัวเองให้หนีพ้นน้ำ จึงต้องมีการฉีดพ่นป้องกันแมลงตามรอบอย่างสม่ำเสมอ

การเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับฤดูฝนเป็นเรื่องที่ไม่ยาก เพียงแค่หมั่นใส่ใจ ตรวจสอบความพร้อมของตัวบ้านและบริเวณโดยรอบ ก็จะช่วยให้การอยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนเป็นเรื่องที่ปลอดภัยหายห่วง สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถสบายใจหายห่วงได้เช่นกันว่าทีมงานแบบมืออาชีพจะเตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อรับมือกับหน้าฝนที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยและการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขของลูกบ้านและช่วยให้สภาพโครงการไม่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ค้นหาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่คอนโดให้เช่าเช่าคอนโดคอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02688 7555 หรือ คลิกที่นี่


พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญบริการอสังหาฯ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ บริหารงานนิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน อาคารสถานที่ ที่ปรึกษางานขายโครงการ และตัวแทนซื้อ ขาย เช่า คอนโดมือสอง ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/contactus

ติดต่อ PLUS PROPERTY

โครงการแนะนำ

Free E-book

COVID-19 self-quarantine Guidebook

COVID-19 self-quarantine Guidebook

แนวทางสำหรับผู้มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อสังเกตอาการตนเองระหว่าง 14 วัน ในที่พักอาศัย (Home quarantine) เพื่อไม่ให้เสี่ยงจากการแพร่กระจาย 

คู่มือนี้จะบอกวิธีการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวล เมื่อต้องอาศัยอยู่คนเดียว