นิติบุคคล คืออะไร มีกี่แบบ และแนะนำขั้นตอนการจดทะเบียนอย่างละเอียด ข้อมูลปี2022

02 มี.ค. 2022 บทความอื่นๆ


พลัสฯ จะมาแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลนิติบุคคลให้ทุกคนได้ทราบกัน และไขข้อสงสัยที่ทุกคนสงสัยกัน โดยเฉพาะเรื่องของขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เนิ่น จะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆ ในภายภาคหลังที่ได้ลงมือทำธุรกิจหรือกิจการไปแล้ว

คำว่า “นิติบุคคล” หลายคนอาจจะคงได้ยินกันบ่อยๆ แต่ยังไม่ทราบความหมายที่แน่ชัด และหน้าที่ของนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นเพื่ออะไร แต่ไม่แปลกที่คนทั่วไปจะไม่ทราบเกี่ยวกับข้อมูลนิติบุคคล เพราะว่าเป็นเรื่องห่างไกลจากชีวิตประจำวันของเรา แท้จริงแล้วนิติบุคคลเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือกิจการต่างๆ หากใครที่กำลังจะเริ่มศึกษาเกี่ยวกับนิติบุคคล ต้องไม่พลาดบทความนี้

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ นิติบุคคลก่อนว่าคืออะไร?

ในทางกฎหมาย “นิติบุคคล” คือ สิ่งที่กฎหมายสมมุติให้เป็นบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรซึ่งกฎหมายได้บัญญัติไว้ให้เป็นบุคคล ที่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา และมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย บุคคลที่กฎหมายกำหนดขึ้นมาให้มีอำนาจในการกระทำต่าง ๆ เช่น สามารถทำนิติกรรมสัญญาต่าง ๆ สัญญาฟ้องร้องและถูกฟ้องร้องทรัพย์สินของตนเอง

นิติบุคคล กับ บุคคลธรรมดา เหมือนกันหรือไม่แล้วแตกต่างกันอย่างไร?

บุคคลธรรมดา หมายถึง ผู้ซึ่งมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย โดยนิติบุคคลเหมือนกับบุคคลธรรมดา ถึงแม้ว่านิติบุคคลจะมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา แต่จะไม่สามารถกระทำการเหมือนกับบุคคลธรรมดาได้ทุกเรื่อง ยกเว้นในกรณี สิทธิและหน้าที่บางอย่างซึ่งบุคคลธรรมดามีอยู่นั้น นิติบุคคลจะมีไม่ได้ เช่น สิทธิในด้านครอบครัว สิทธิในทางการเมือง

เพราะว่านิติบุคคลเป็นเพียงบุคคลสมมติที่ไม่มีชีวิต ร่างกาย และสติปัญญาเหมือนกับบุคคลธรรมดา ดังนั้นนิติบุคคลจึงต้องมี “ผู้แทนนิติบุคคล” เพื่อแสดงออกถึงสิทธิ หน้าที่ และความประสงค์ของนิติบุคคล

กฎเกณฑ์และเงื่อนไขของบุคคลธรรมดา 

  1. บุคคลธรรมดาจะมีสามารถทำนิติกรรมได้ ต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือได้สมรสแล้วถูกต้องตามกฎหมาย
  2. ต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
  3. หากผู้เยาว์ ผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสมือนไร้ความสามารถ ตามกฎหมาย จะทำนิติกรรมต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม, ผู้อนุบาล, ผู้พิทักษ์ ตามลำดับตามกฎหมายก่อน

นิติบุคคลสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทออกได้ ดังนี้

ประเภทที่ 1 นิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีบัญญัติเอาไว้หลายประเภท เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด เป็นต้น ซึ่งเป็น นิติบุคคล ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือธุรกิจ และแบบไม่แสวงหาผลกำไรหรือผลประโยชน์ เช่น มูลนิธิ สมาคม เป็นต้น

ประเภทที่ 2 นิติบุคคล ตามกฎหมายอื่น นิติบุคคลตามกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น พระราชบัญญัติมหาชนจำกัด พระราชบัญญัติสหกรณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยมีกฎหมายกำหนดให้สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ เช่น วัด จังหวัด กระทรวง ทบวง กรม องค์การมหาชน เป็นต้น

ในบทความนี้เราจะให้ความรู้สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจหรือขยับขยายธุรกิจ ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อทำความเข้าใจประเภทของห้างหุ้นส่วนของ นิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนี้ 

1.ห้างหุ้นส่วนสามัญ หมายถึง ห้างหุ้นส่วนที่มีผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทเดียว คือ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิด โดยหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนทั้งหมด ห้างหุ้นส่วนสามัญจะจดทะเบียนหรือไม่ก็ได้ ถ้าจดทะเบียนจะเรียกว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล และมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย

ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ควรรู้มี ดังนี้

  1. ต้องมีหุ้นส่วนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเข้าร่วมลงหุ้นในห้างตกลงกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรที่สามารถทำมาหาได้
  2. จะทำการจดทะเบียนนิติบุคคลหรือไม่จดทะเบียนบุคคลก็ได้
  3. ผู้ที่เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในตัวหนี้สินทั้งหมดของหุ้นส่วนโดยไม่มีข้อจำกัด
  4. จำเป็นจะต้องมีหุ้นส่วนในห้างตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
  5. ห้างหุ้นส่วนสามัญสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทย่อยคือ 

            ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน (หมายถึงไม่ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

            ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน (หมายถึงจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

2.ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมายถึง ห้างหุ้นส่วนที่มีหุ้นส่วน 2 ประเภท ได้แก่ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด จะมีคนเดียวหรือหลายคนก็ได้ รับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด และหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดจะมีคนเดียว หรือหลายคนก็ได้ รับผิดร่วมกันในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนทั้งหมด 

ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ควรรู้มี ดังนี้

1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีสถานะเป็น “นิติบุคคล”

2. เป็นสัญญาของบุคคลตั้งแต่ 2 ขึ้นไปที่ทำการตกลงกระทำกิจการร่วมกัน ตกลงกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรที่สามารถทำมาหาได้

3. มีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ

            ประเภทที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ

            ประเภทที่จำกัดความรับผิดชอบ

4. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จะต้องนำส่งงบการเงินตามกฎหมาย

5. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จะเสียภาษีในรูปแบบนิติบุคคล

ข้อสำคัญที่ต้องรู้

  • หุ้นส่วนผู้จัดการจะต้องเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัดจะต้องจดทะเบียน ถ้าไม่จดทะเบียนถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
  • เมื่อจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จะมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแยกต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วน และได้รับเลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก ซึ่งจะถูกใช้เป็นเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของกรมสรรพากรด้วย

ยังมีนิติบุคคลอีกหนึ่งประเภทที่เรานั้นคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดีนั้นก็คือ “นิติบุคคลอาคารชุด” ซึ่งจัดเป็นนิติบุคคลประเภทหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติอาคาร ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการดูแลเพื่อให้ทรัพย์สินส่วนกลางได้รับการจัดการและดูแลรักษาหรือเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง อยู่ในสภาพที่ดีปลอดภัยต่อการใช้งานและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด


ลักษะณะสำคัญของนิติบุคคลอาคารชุดมี ดังนี้

  1. จัดการดูแลอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง
  2. จัดการงานบำรุงรักษาระบบประกอบอาคาร
  3. จัดการบริเวณโดยรอบอาคารชุด ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility)
  4. จัดการความปลอดภัยด้านอัคคีภัยและเหตุการณ์ฉุกเฉิน
  5. จัดการรักษาความมั่นคงปลอดภัย 

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจจะเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับนิติบุคคลมากยิ่งขึ้นแล้ว ทีนี้เราไปดูกันว่าถ้าหากเราตัดสินใจที่จะทำธุรกิจหรือกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือขยับขยายจนกลายมาเป็นบริษัท “การจดทะเบียนบริษัท” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ตามมา เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคลในฉบับง่ายๆ กันเลย

6 ขั้นตอนในการจดทะเบียนนิติบุคคล

1. ทำการตรวจและจองชื่อบริษัท โดยก่อนทำการจดทะเบียนนิติบุคคล จะต้องมีชื่อบริษัทขึ้นมาก่อนโดยชื่อเหล่านั้นต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายกับบริษัทอื่นๆ ที่จดทะเบียนไปแล้ว เราสามารถคิดชื่อเพื่อใช้ในการจดทะเบียนนั้นยื่นจองได้สูงสุดถึง 3 ชื่อ และจะได้รับการพิจารณาจากชื่อแรก หากชื่อแรกซ้ำหรือไม่ผ่านเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง นายทะเบียนก็จะพิจารณาชื่อในลำดับถัดไปแทน

ในส่วนของการยื่นจองชื่อเพื่อจดทะเบียนนิติบุคคล สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ

  • ยื่นด้วยตนเองต่อนายทะเบียน ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตที่เราอาศัยอยู่ หรือหากเราอยู่ต่างจังหวัด ก็สามารถยื่นได้ที่สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัดนั้นๆ
  • จองผ่านเว็บไซต์ โดยกรอกข้อมูลที่ www.dbd.go.th

2. จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ เป็นหนังสือสำหรับแสดงความต้องการในการจัดตั้งบริษัท ต้องมีการระบุที่อยู่, วัตถุประสงค์, จำนวนหุ้น และข้อมูลของผู้ก่อตั้งอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป รวมไปถึงขึ้นต้นว่าบริษัทและลงท้ายด้วยคำว่าจำกัด ซึ่งในการยื่นหนังสือหนังสือบริคณห์สนธินั้น ต้องยื่นภายใน 30 วันนับตั้งแต่นายทะเบียนแจ้งผลการรับรองชื่อบริษัท

3. จัดให้มีการจองซื้อหุ้นบริษัทและนัดประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ก่อตั้งเท่านั้นโดยทุกคนต้องถือคนละ 1 หุ้นหรือมากกว่า จากนั้นเมื่อทำการขายหุ้นบริษัทจนครบแล้ว จะต้องออกหนังสือเพื่อทำการนัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยกำหนดการประชุมจะจัดหลังออกหนังสืออย่างน้อย 7 วัน

จากนั้นทำการจัดประชุมเพื่อจัดตั้งจดทะเบียนนิติบุคคล ในวาระการประชุมควรประกอบด้วยสาระสำคัญ คือ การตั้งระเบียบข้อบังคับของบริษัท การเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัทและอำนาจของคณะกรรมการ การเลือกผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เพื่อทำการตรวจสอบและรับรองงบการเงิน ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีที่คัดเลือกมารับหน้าที่จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น

4. ประชุมเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการบริษัท ควรเลือกคณะกรรมการเพื่อมาทำหน้าที่แทนผู้ก่อตั้งและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในนามบริษัท โดยทำการจัดตั้งจากการเก็บเงินชำระค่าหุ้นอย่างน้อย 25% ของราคาหุ้นจริง เพื่อทำการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัทภายใน 3 เดือนนับจากวันประชุมจัดตั้งคณะกรรมการบริษัท ถ้าหากยื่นคำขอภายหลังจากกำหนด จะต้องจัดประชุมใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการประชุมครั้งก่อนจะถือว่าเป็นโมฆะ

5. ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัท 

  • ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ จะดำเนินการจากการคิดจากเงินทุนจำนวนแสนละ 50 บาท โดยไม่ว่าจะมีเศษเกินมากี่บาทก็ให้คิดเป็นจำนวนเต็มแสนเท่านั้น ซึ่งการชำระค่าธรรมเนียมเกณฑ์การชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท และสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท 
  • ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนบริษัท คิดตามทุนการจดทะเบียนแสนละ 500 บาทเช่นกัน แต่ขั้นต่ำในการชำระต้องไม่น้อยกว่า 5,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 250,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือรับรอง ฉบับละ 200 บาท
  • ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
  • ค่ารับรองสำเนาเอกสาร หน้าละ 50 บาท

6. รับใบสำคัญและหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนบริษัทและมอบหนังสือรับรองแล้ว ก็ถือว่าบริษัทได้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิและหน้าที่ต่างๆ โดยสมบูรณ์ตามที่บริษัทพึงมีทุกประการ

เพียงเท่านี้การจดทะเบียนนิติบุคคลก็เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อย หลังจากนี้บริษัทควรจะทำการเตรียมค่าใช้อื่นๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบุคคลากร, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าจัดซื้อจัดจำหน่าย เป็นต้น เพราะฉะนั้นผู้ที่กำลังจะทำการจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นบริษัทแล้ว ควรที่จะคิดให้รอบคอบและถี่ถ้วนมากที่สุดในทุกมุมมอง 

บทความที่เกี่ยวข้อง :

หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู, คอนโด 2 ห้องนอน, คอนโดอ่อนนุช, บ้านแสนสิริ

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่

ติดต่อ PLUS PROPERTY

เรื่องเด่นน่าสนใจ

เรื่องราวยอดนิยม

โครงการแนะนำ

Free E-book

undefined undefined undefined

undefined undefined undefined