ตอบทุกคำถามขายบ้านเก่าซื้อบ้านใหม่ในปี 2565 ได้ลดภาษีถึง 3 ต่อ
สำหรับคนที่กำลังวางแผนจะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยในปี 2565 หรืออาจเจอบ้านหลังใหม่ที่ถูกใจและคิดอยากจะย้ายแต่ยังคิดวางแผนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากของใครหลายๆคนหรืออาจคิดหนักในเรื่องของค่าใช้จ่าย ไม่ว่าเป็นเรื่องของค่าธรรมเนียมในการโอนบ้าน ค่าจดจำนอง รวมไปถึงการขอคืนภาษี ลดหย่อนภาษีบ้าน
พลัสฯ จะมาช่วยแนะนำและตอบคำถามเกี่ยวกับการขายบ้านเก่าซื้อบ้านใหม่ในปี 2565 ได้ลดหย่อนภาษีบ้านถึง 3 เท่า ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเงินประหยัดทั้งเวลาในการหาข้อมูลไปพร้อมๆกันเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์เตรียมพร้อมให้การซื้อบ้านใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น และไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
เรามาเช็ครายละเอียดของมาตราการการลดหย่อนภาษีบ้าน ค่าโอน-จดจำนองบ้านในปี 2565 โดยที่ล่าสุด กรมที่ดินประกาศลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง จากอัตราปกติ 1% เหลือ 0.01% ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังวางแผนที่จะซื้อบ้านใหม่ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง พลัสฯ ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วครับ
อัพเดตมาตรการค่าโอนบ้าน-คอนโด ในปี 2565 เริ่มต้นกันที่บ้านใหม่
ถ้าหากใครที่กำลังจะซื้อบ้านเดี่ยว,บ้านแฝด,ทาวน์เฮ้าส์,อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียมในราคาที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เมื่อถึงเวลารับโอนบ้านหรือคอนโดที่สำนักงานที่ดิน ปกติจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนถึง 2% ของราคาประเมิน แต่ในปี 2565 นี้รัฐได้ออกมาตรการให้ค่าธรรมเนียมการโอนเหลือเพียงแค่ 0.01% โดยจะสิ้นสุดมาตรการถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นี้
โดยปกติค่าธรรมเนียมในการโอนนั้น ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องแบ่งกันรับผิดชอบคนละครึ่ง หรือคนละ 1% แต่ในสถานการณ์ที่ตลาดเป็นของผู้ซื้อ ฝั่งผู้ขายก็ยกผลประโยชน์ให้กับผู้ซื้อ ด้วยแคมเปญหรือโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมในการโอนที่เราเห็นกันบ่อยๆ (แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณีไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ตกลงกันในสัญญาจะซื้อจะขาย)
ผลประโยชน์ที่จะได้ในส่วนของค่าธรรมเนียมโอน-การจดจำนองในครั้งนี้มีอะไรบ้าง?
ผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้ก็คือการได้ลดภาระเต็มๆในส่วนนี้ไปเกือบ 2% อย่างเช่น
- ถ้าโอนบ้านราคา 1 ล้านบาท ปกติต้องจ่ายค่าโอน 2 หมื่นบาท ก็จะจ่ายแค่ 100 บาท
- ถ้าโอนบ้านราคา 2 ล้านบาท ปกติต้องจ่ายค่าโอน 4 หมื่นบาท จะจ่ายแค่ 200 บาท
- ถ้าโอนบ้านราคา 3 ล้านบาท จะจ่ายค่าโอน 6 หมื่นบาท ก็จะจ่ายแค่ 300 บาท
เพราะเนื่องจากคนซื้อบ้านส่วนใหญ่จะขอสินเชื่อกับธนาคาร เพื่อผ่านการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อทำการโอนบ้านแล้วจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจดจำนองหลักประกัน ซึ่งก็คือบ้านพร้อมที่ดินที่ซื้อนั่นเอง ค่าธรรมเนียมตรงนี้คิดอยู่ที่ 1% ของวงเงินจำนอง หรือวงเงินที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้นั่นเองครับ
สรุปรวมผลประโยชน์ที่ได้จากการลดหย่อนภาษีบ้านค่าโอนและค่าจดจำนอง ในปี 2565 นี้
สำหรับบ้านใหม่ที่อยู่อาศัยราคา 1 ล้านบาท จากที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองรวม 3% หรือ 3 หมื่นบาท เหลือจ่าย 200 บาท หรือประหยัดไปได้ถึง 29,800 บาท ที่อยู่อาศัยราคา 2 ล้านบาท จากที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองรวม 3% หรือ 6 หมื่นบาท เหลือจ่าย 400 บาท หรือประหยัดไปได้ 59,600 บาทที่อยู่อาศัยราคา 3 ล้านบาท จากที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองรวม 3% หรือ 9 หมื่นบาท เหลือจ่าย 600 บาท หรือประหยัดไปได้ 89,400 บาท
สำหรับผู้ที่ซื้อ-ขายบ้านหรือคอนโดมือสองก็ได้ลดค่าโอนในส่วนของบ้านและคอนโดมือสอง ซึ่งจะได้ผลประโยชน์ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับบ้านใหม่อีกด้วย เพียงแต่จะมีการแบ่งผลประโยชน์กันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายกันอย่างไรขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย
ซึ่งในการซื้อขายบ้านหรือคอนโดมือสองโดยทั่วๆไป แค่โอนจะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยที่ผู้ขายให้ผู้ซื้อรับผิดชอบค่าโอน หรือผู้ซื้อให้ผู้ขายรับผิดชอบค่าโอน ส่วนค่าธรรมเนียมการจดจำนองนั้น โดยปกติผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ขอสินเชื่อก็จะเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมในส่วนนี้
ดังนั้นผลประโยชน์ที่จะได้จากมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองสำหรับการซื้อขายบ้านหรือคอนโดมือสองก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนไหนไปบ้าง มาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจอยู่ พลัสฯ จะยกตัวอย่างให้เข้าได้ง่ายๆกันครับ
ยกตัวอย่างเช่น
บ้านหรือคอนโดมือสองราคา 3 ล้านบาท ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงจ่ายค่าโอนคนละครึ่ง ก็จะลดภาระไปได้คนละ 29,850 บาท (ค่าโอน 2% จากราคาบ้าน 3 ล้านบาท = 60,000 บาท ลดค่าโอนเหลือ 0.01% = 300 บาท หรือลดภาระค่าโอนไปได้ 59,700 บาท แบ่งเป็นฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายคนละ 29,850 บาท)
ขณะที่ผู้ซื้อเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมจดจำนอง 1% หรือ 1 หมื่นบาท (ในกรณีที่สามารถกู้ได้ 100%) ก็จะลดเหลือ 0.01% หรือ 100 บาท เท่ากับว่า ผู้ซื้อจะประหยัดค่าจดจำนองไปได้อีก 9,900 บาท เป็นต้น
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านและคอนโดมือสองที่ควรรู้
นอกจากมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองที่ให้กับบ้านและคอนโดมือสองในปี 2565 แล้วยังมีสิทธิพิเศษที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้นั่นก็คือ การขายบ้านหลังเก่า เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ สามารถขอลดหย่อนภาษีบ้านหรือขอคืนภาษีเงินได้จากการขายบ้านหลังเก่าได้นั่นเอง ซึ่งการขอคืนภาษีลดหย่อนภาษีบ้านจากบ้านหลังเก่าผู้ขอคืนภาษีจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรและต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างจะมีรายละเอียดตามด้านล่างนี้เลยครับ
คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ขอคืนภาษี ลดหย่อนภาษีบ้านมี ดังนี้
กรณีที่ 1 ผู้ขอคืนภาษีจะต้องมีชื่อในทะเบียนบ้าน หลังเก่า ไม่น้อยกว่า 1 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
กรณีที่ 2 ผู้ขอคืนภาษีมีชื่อในทะเบียนบ้านหลังเก่า น้อยกว่า 1 ปี แต่รวมกับชื่อในทะเบียนบ้านหลังใหม่ แล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี (นับถึงวันที่ขายบ้านหลังเก่า) ถ้าหากเป็นสินสมรส จำเป็นจะต้องมีชื่อสามีหรือภรรยาในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี ภาษีเงินได้ที่จะได้รับคืน จะถูกคิดจากบ้านที่ราคาต่ำกว่า
*อ้างอิงตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 125
การขอคืนภาษีจากการขายบ้าน ลดหย่อนภาษีบ้าน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
วิธีการขอคืนภาษีลดหย่อนภาษีบ้านจากการขายบ้านนั้น ผู้ขายต้องชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่กรมที่ดินไปก่อน แล้วค่อยยื่นเอกสารขอคืนภาษีจากสรรพากร โดยกรอกแบบฟอร์ม ค.10 ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาท้องที่ที่ผู้มีเงินได้มีภูมิลำเนา แล้วยื่นคำร้องขอลดหย่อนภาษีบ้าน ขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย พร้อมแนบเอกสารหลักฐานต่างๆในการลดหย่อนภาษีบ้าน ดังนี้
- ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่าภาษีเงินได้ฉบับที่กรมที่ดินออกให้ สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์แห่งเดิม
- สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งเดิม
- สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่
- สำเนาทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรของผู้มีเงินได้สำหรับอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ (ในกรณีมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร สำหรับอสังหาริมทรัพย์แห่งเดิมน้อยกว่า 1 ปี)
ผู้ที่วางแผนขายบ้านเก่า เพื่อซื้อบ้านใหม่อย่าลืมขอคืนภาษีเงินได้ ลดหย่อนภาษีบ้าน จากการขายบ้าน หากเข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดจะสามารถขอลดหย่อนภาษีบ้าน ขอคืนเงินภาษีบ้านได้ ซึ่งช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไม่น้อย และนอกจากนี้ก่อนที่คิดจะซื้อบ้านใหม่จริงๆ อย่าลืมอัพเดทอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านก่อนตัดสินใจ
ได้ลดหย่อนภาษีบ้าน 3 ต่อจากการขายบ้านเก่าซื้อบ้านใหม่ในปี 2565 เป็นความจริงหรือไม่มาดูกัน
การขอคืนเงินภาษี ลดหย่อนภาษีบ้านได้ในกรณีนี้มีใช้มาตั้งแต่ปี 2546 หรือเกือบๆ 20 ปีมาแล้ว และไม่มีกำหนดวันหมดอายุ ซึ่งเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 125) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ลดหย่อนภาษีบ้านสำหรับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยแห่งเดิมและต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยสามารถทำได้ในหลายกรณี
เช่น ถ้าเราขายบ้านหลังเก่า เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ภายในเวลา 1 ปี หลังการขายบ้านหลังเก่า เราสามารถขอคืนภาษีเงินได้ ลดหย่อนภาษีบ้านโดยหัก ณ ที่จ่ายจากขายบ้านหลังเก่าได้ซื้อบ้านหลังใหม่ แล้วค่อยขายบ้านหลังเก่า ภายใน 1 ปี ก็สามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายบ้านหลังเก่าได้เช่นกัน และจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าและหลังใหม่รวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี
เงื่อนไขการขอคืนภาษี ลดหย่อนภาษีบ้าน เช่น ขายบ้านหลังเก่าไปในราคา 3 ล้านบาท เพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ในราคา 4 ล้านบาท จะขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายบ้านในราคา 3 ล้านบาทได้ แต่ถ้าขายบ้านหลังเก่าในราคา 3 ล้านบาท เพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ในราคา 2 ล้านบาท จะขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้แค่ 2 ล้านบาท เป็นต้น
อีกทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ ธอส.เปิดช่องทาง “ขอลดหย่อนภาษีบ้าน ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมบ้าน” โดยไม่ใช้ใบรับรองดอกเบี้ย โดยสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวได้ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น GHB ALL เพียงเลือกแถบเมนูที่มุมซ้ายด้านล่าง กดที่ บริการอื่น ๆ เลือก หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ แจ้งสิทธิยกเว้นภาษี จากนั้นเลือก “แจ้งใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม” และกดตกลง หรือ ผ่านทาง Website ธนาคารคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับลูกค้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว จะสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีบ้านดอกเบี้ยเงินกู้ยืมฯ ได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือรับรองดอกเบี้ยนั่นเอง
สรุปถ้าเราขายบ้านเก่า เพื่อซื้อบ้านใหม่ในปี 2565 จะได้ลดหย่อนภาษีบ้านถึง 3 ต่ออย่างไร?
- เริ่มจากต่อแรกได้ลดค่าธรรมเนียมการโอนจากการขายบ้านหลังเก่า
- ได้ลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง (กรณีกู้เงินกับธนาคาร) ในการซื้อบ้านหลังใหม่
- สามารถขอคืนภาษีจากการขายบ้านหลังเก่าได้
ในภาวะที่เศรษฐกิจยังชะลอเช่นปัจจุบันหากใครกำลังที่จะมีแผนที่จะซื้อบ้านใหม่ ก็ควรจะศึกษาให้ดีการลดค่าโอนและค่าจดจำนองรอบนี้ นอกจากจะเป็นการลดหย่อนภาษีบ้าน ลดภาระให้กับผู้ซื้อบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม จากโครงการต่างๆ ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือที่เรียกกันว่าบ้านใหม่แล้วยังขยายวงให้กับการซื้อขายบ้านหรือคอนโดมิเนียมมือสองอีกด้วย ทำให้ในปี 2565 ตลาดบ้านมือสอง คอนโดรีเซล ก็น่าจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้นจากมาตรการดังกล่าว
และหากใครที่กำลังมองหาบ้านที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิต ทางเรามียูนิตให้เลือกกว่า 8,000 รายการ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโด หลากหลายทำเล พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษา รวมถึงมีนิติบุคคลที่มีความเป็นมืออาชีพ ดูแลให้พื้นที่ส่วนกลางน่าอยู่ถูกสุขลักษณะ และบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พลัสฯ เปลี่ยนประสบการณ์การอยู่อาศัยสู่ชีวิตที่ดีกว่าในทุกวัน ทีม Plus Living Management เราใส่ใจทุกรายละเอียด
อ้างอิง : POST TO DAY , DD Property
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- พลัสฯ รวมมาให้ ไขข้อสงสัยมาตรการ ลดภาษีที่ดิน-ค่าโอน บทความนี้มีคำตอบ
- รู้ดอกเบี้ยก่อนซื้อคอนโด อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อคอนโดมือสอง
- พลัสฯ มัดมาให้ รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2564 ที่คนซื้อบ้าน ซื้อคอนโดต้องรู้
ค้นหาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่, คอนโดให้เช่า, เช่าคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02688 7555 หรือ คลิกที่นี่