“ให้ธรรมชาติเยียวยา” ทำไมมนุษย์ยังโหยหาพื้นที่สีเขียวในที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองกรุง?

21 ธ.ค. 2021 รีวิวอสังหาฯ


ในขณะที่เรากำลังนั่งทำงาน Work from home อยู่กับบ้าน หรือใครที่เริ่มไปทำงานที่ออฟฟิศบ้างแล้ว ก็ต้องเจอกับแสงนีออนและแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ “พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถหลุดพ้นจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ได้ เรียกได้ว่ามนุษย์นั้นมักจะโหยหาสิ่งที่เรียกว่าสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ให้กับตัวเองอยู่เสมอจนเป็นเรื่องปกติ

ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการต้องล็อกดาวน์อยู่กับบ้านโดยที่ไม่ได้ออกไปไหนในช่วงปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้เราต่างก็โหยหาความต้องการพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติยิ่งกว่าที่คิด ซึ่งแม้การพยายามพาตัวเองออกเดินทางไปท่องเที่ยวจะช่วยได้บ้าง แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ใกล้ๆ ตัว แม้จะอยู่ท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเจริญก็ตาม


ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติส่งผลดีกับคนอย่างเราในแง่มุมไหนบ้าง?

ถ้าจะถามว่าธรรมชาติส่งผลยังไงกับคนเมืองอย่างเราๆ ในแง่ของการศึกษาวิจัยทางวิชาการแล้ว Edward Osborne Wilson นักชีววิทยาชาวอเมริกันได้ให้คำนิยามของมนุษย์ว่า เราทุกคนต่างก็มีความเป็น “Biophilia” ซึ่งก็คือสัญชาติญาณความต้องการในการใฝ่หาชีวภาพให้กับชีวิต ซึ่งเจ้าสัญชาติญาณนี่เอง ที่ทำให้มนุษย์อย่างเรามักจะรู้สึกสดชื่น เบิกบานใจราวกับได้ทุกปลดปล่อยทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์

หากเราสลับมุมมองมาดูในแง่ทางวิทยาศาสตร์บ้าง ก็อย่างที่รู้กันว่า ประโยชน์ของต้นไม้ ธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวนั้น ก็คือความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากต้นไม้จะคอยช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็นการปลดปล่อยก๊าซออกซิเจน (O2) ซึ่งจำเป็นต่อการหายใจของเราออกมา 

ยังไม่รวมถึงคุณสมบัติของต้นไม้ ที่สามารถช่วยลดอุณหภูมิของพื้นที่เมืองโดยรอบได้จากร่มเงา และการดูดซับเพื่อคายความชื้นออกมา

และอีกประเด็นที่สำคัญก็คือ ถ้าเรามองในแง่ของจิตวิทยาแล้ว ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวที่ส่งผลต่อคนเมืองอย่างเรานั้น ก็คือผลลัพธ์ที่เกิดจากการรับรู้สี และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มประโยชน์ให้กับพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติได้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ ส่งผลต่อชีวิตคนเมืองของเรายังไงบ้าง?

สำหรับเมืองหลวงที่มีประชากรอยู่กันหนาแน่นนั้น นักวิชาการได้มีการกำหนดดัชนีชี้วัดความอยู่ดีมีสุขของประชากร (Well-being indicator) ขึ้นมา ซึ่งการที่ดัชนีนี้จะเพิ่มขึ้นได้นั้น หนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือ เมืองแห่งนั้นจะต้องมี “พื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติ” ที่มีคุณภาพ ในปริมาณที่เหมาะสม ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งที่อยู่อาศัย ทั้งยังต้องเดินทางสะดวกไปพร้อมกัน


ข้อดีของพื้นที่สีเขียวจากธรรมชาติที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยในสังคมเมือง

  • พื้นที่สีเขียวส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัย 

  • ต้นไม้และพืชที่มีเพียงพอ จะช่วยลดอุณหภูมิของเมืองลงได้ ทั้งยังลดมลภาวะทางเสียงได้ หากมีพืชที่หนาแน่นเพียงพอ

  • ช่วยลดมลพิษทางอากาศ อันเกิดจากการสะสมของฝุ่นควันในเมือง

  • ช่วยสร้างระบบนิเวศที่ดี จากการเข้ามาอยู่อาศัยของนก ปลา แมลง และสัตว์อื่นๆ

  • ต้นไม้ขนาดใหญ่จะช่วยป้องกันการกัดเซาะพังทลายของดินได้

  • สามารถช่วยปรับปรุงระบบการบำบัดน้ำเสียได้ในระดับหนึ่ง

  • เป็นพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน สามารถทำกิจกรรมร่วมกัน และสัมผัสกับธรรมชาติได้โดยไม่ต้องลำบาก

  • เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมาออกกำลัง ขยับร่างกายได้มากขึ้น เป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพดีของคนเมืองในทางอ้อมได้

แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่า พื้นที่สีเขียวในเมืองนั้นเป็นของหายาก โดยเฉพาะในเมืองหลวงที่มูลค่าของที่ดินมีการเติบโตอยู่ในทุกๆ ปี ทำให้โอกาสที่คนทั่วไปจะได้สัมผัสกับพื้นที่สีเขียวที่ได้คุณภาพในเมืองนั้นจึงมีน้อยตามไปด้วยนั่นเอง

พื้นที่สีเขียวที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” มีที่ไหนบ้าง? 

แต่อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และโหยหาพื้นที่สีเขียวนั้น ก็ไม่ถือว่าไร้โอกาสจนเกินไปนัก เนื่องจากทางรัฐบาลเองก็ได้เล็งเห็นความสำคัญ และส่งเสริม รวมถึงดูแลรักษาพื้นที่สีเขียวขึ้นภายในเมืองอย่างต่อเนื่อง (แม้จะมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร)

โดย จากข้อมูลการจัดอันดับของ Tripadvisor ได้ระบุว่า สวนสาธารณะที่เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งเปรียบเสมือนกับปอดของคนกรุง ที่ได้รับความนิยมที่สุด มีดังนี้


สวนลุมพินี (สีลม) 

ถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตปทุมวัน จุดเด่นของสวนลุมพินีนั้น ก็คือความสะดวกสบายในการเดินทาง รวมถึงความร่มรื่นที่มาพร้อมสระน้ำขนาดใหญ่ สามารถเดินทางได้ง่ายๆ เพียงขึ้นจากสถานี MRT สีลม

ถือเป็นจุดพักผ่อนขนาดใหญ่ที่เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมือง นอกจากนั้นยังเป็นสถานที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลานเดินวิ่ง ออกกำลังกาย รำมวยจีน ปั่นจักรยาน ฯลฯ นอกจากนั้นยังถือเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับจัดงานเทศกาลต่างๆ อาทิ งานวิ่งมาราธอน หรืองานกาชาด ฯลฯ เป็นต้น


สวนเบญจสิริ

สวนเบญจสิริ ถือเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่มีอายุยาวนาน ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22-24 โดยสามารถเดินทางไปได้จากรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ โดยที่นี่ นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกายแล้ว ยังมีจุดเด่นในแง่ของการเป็นพื้นที่สันทนาการและวัฒนธรรม

ภายในจะมีทั้งงานประติมากรรมสำหรับประดับสวน ลานกิจกรรมกลางแจ้ง สนามกีฬา สนามเด็กเล่น สนามเทนนิส ลานเสก็ต และฟิตเนสกลางแจ้งให้ประชาชนสามารถใช้งานกันได้ตามต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุดได้อย่างเต็มที่

สวนเบญจกิติ 

สวนเบญจกิติ มีพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 450 ไร่ เหมาะสำหรับกิจกรรมเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย และมีเส้นทาง Bike Lane สำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังมีสถานที่ไฮไลท์คือ ทางเดินออกกำลังกายลอยฟ้าแบบ Sky walk ที่เชื่อมโยงไปยังจุดต่างๆ ของสวนสาธารณะได้อย่างทั่วถึง

นอกจากนั้นยังเป็นสวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ง่ายด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


สวนจตุจักร และ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

สวนจตุจักรและสวนรถไฟ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กสำคัญที่คนกรุงเทพฯ ต้องคุ้นเคยกันดี เพราะสวนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 375 ไร่แห่งนี้ มีทั้งลานกิจกรรม สนามเด็กเล่น ทางจักรยาน ทุ่งหญ้าสุดกว้างขวาง เมืองจราจรจำลอง ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ สวนโมกข์ กรุงเทพฯ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

อีกทั้งสวนรถไฟยังเป็นอีกหนึ่งลานกิจกรรมที่มักจะมี Event ต่างๆ อย่างงานวิ่งมาราธอน งานวิ่งเพื่อสุขภาพ ฯลฯ มาจัดอยู่ที่นี่บ่อยๆ จึงเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็น “ปอดแห่งเมืองกรุง” อย่างแท้จริง

“พื้นที่สีเขียว” จะถูกสร้างขึ้นด้วยหน่วยงานหรือบริษัทเอกชนได้หรือเปล่า?

หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า การสร้างสวนหย่อมหรือพื้นที่สีเขียวเพื่อสำหรับใช้งานส่วนบุคคลหรือเพื่อธุรกิจนั้น จะถูกจัดอยู่ในประเภทของพื้นที่สีเขียวได้ด้วยเหรอ? คำตอบนี้ต้องบอกเลยว่า “สามารถจัดอยู่ในประเภทของพื้นที่สีเขียวได้” อย่างเต็มรูปแบบ 

เนื่องจากจากการนิยามของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรสิ่งแวดล้อม จะมีคำที่เรียกว่า”พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์” ซึ่งประกอบไปด้วย พื้นที่สีเขียวส่วนบุคคล เช่น สวนในโครงการพัฒนาของเอกชน สวนในบ้านและอาคารพักอาศัย และพื้นที่สีเขียวในสถาบัน สถานที่ราชการ หรือสนามบิน ฯลฯ

 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะในโครงการหมู่บ้านจัดสรร หรือโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ก็สามารถนับเป็นหนึ่งใน “พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์” ได้เช่นกัน

โครงการ The Line Phahonyothin Park “สร้างพื้นที่สีเขียว” สำหรับคุณโดยเฉพาะ

ในเมื่อสวนในอาคารพักอาศัยก็สามารถกลายเป็น “พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์” ได้ตามคำนิยามของรัฐบาลแล้ว โครงการคอนโดมิเนียมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบริษัทเอกชน ซึ่งมีการสร้างพื้นที่สีเขียวขึ้นมาสำหรับลูกบ้านที่อยู่อาศัยนั้น ก็สามารถส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในอาคาร ไปจนถึงสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในภาพกว้างได้เช่นกัน


โครงการ The Line Phahonyothin Park (เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค) ถือเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมจากแสนสิริ ที่ได้นำเอาพื้นที่ของโครงการไม่รวมอาคารที่อยู่อาศัยกว่า 8 ไร่ มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวอย่างเต็มที่ โดยโครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High rise ทั้งหมด 32 ชั้น มีที่อยู่อาศัยทั้งหมด 880 ยูนิต

ซึ่งตัวอาคารและพื้นที่โดยรอบนั้นได้รับการดีไซน์มาด้วยคอนเซปต์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยมีจุดเด่นดังนี้

ตัวอาคารได้นำเอาแนวคิด “Magical Tree” มาเป็นคอนเซปต์หลักในการออกแบบรูปลักษณ์ทั้งหมดของตัวอาคารให้เป็นโครงร่างของต้นไม้ ซึ่งสามารถสร้างร่มเงาได้สอดรับไปกับการตกกระทบของแสงอาทิตย์สู่ตัวอาคาร นอกจากนั้นก็จะมีการใช้สีเขียวที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ



ในแง่ของความเป็นพื้นที่สีเขียวนั้น โครงการ The Line Phahonyothin Park นั้น ได้ออกแบบให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 8 ไร่ อยู่ด้านหน้า โดยมีทั้งบ่อน้ำขนาดใหญ่ ต้นไม้ใหญ่มากมาย ทางเดินใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่น จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นระบบนิเวศที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างลงตัว

นอกจากนั้นในสวนแห่งนี้ ยังประกอบไปด้วยพื้นที่สันทนาการมากมาย รองรับความต้องการได้ทั้งกลุ่มเพื่อนที่อาจจะอยากมาปาร์ตี้กลางสวน ไปจนถึงกลุ่มครอบครัวที่สามารถใช้งานสนามเด็กเล่นกลางทุ่งหญ้าได้อย่างเต็มที่



สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง โครงการ The Line Phahonyothin Park ได้ออกแบบมาให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนชั้น 32 ซึ่งแน่นอนว่าเต็มไปด้วยสวนหย่อมและที่นั่งเล่นสำหรับพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ หรือหากต้องการว่ายน้ำก็มีสระแบบฟรีฟอร์มที่มีความยาวรวม 38 เมตร ซึ่งแน่นอนว่าก็เป็นสระที่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้และสีเขียวเช่นกัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ในสายตาอย่างแน่นอน

หันมามองยูนิตสำหรับอยู่อาศัยของโครงการ The Line Phahonyothin Park กันบ้าง ที่นี่มีขนาดห้องที่รองรับความต้องการมาตรฐานคนเมือง นั่นก็คือห้องขนาด 1 ห้องนอน (31.75-32.75 ตร.ม.) ห้องขนาด 2 ห้องนอน (58.75-60.75 ตร.ม.) และห้องแบบดูเพล็กซ์ (79.50-82.25 ตร.ม.) ซึ่งนอกจากคุณภาพงานก่อสร้างและงานดีไซน์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทุกห้องยังมีการออกแบบมาให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี


แน่นอนว่าการที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม ความสะดวกในการเดินทางย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งโครงการ The Line Phahonyothin Park แห่งนี้ ถือว่า ตั้งอยู่ ณ จุด กึ่งกลางความเจริญในย่านลาดพร้าวอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับขาช้อป โครงการนี้มีระยะใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าวเพียงแค่ 500 เมตร สามารถเดินทางต่อเนื่องเข้าเมืองได้ด้วย BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวซึ่งอยู่ห่างไปเพียงแค่ 300 เมตร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

และสำหรับใครที่ต้องการใช้เวลาอยู่กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ “หนึ่งในปอดของกรุงเทพฯ” ที่เราได้กล่าวไป โครงการนี้ก็ตั้งอยู่ใกล้กับสวนจตุจักรรวมถึงสวนรถไฟ ในระยะที่สามารถเดินเท้าไปถึงได้เพียงแค่ 3.1 กิโลเมตรเท่านั้น

สรุปแนวทางของการสร้างพื้นที่สีเขียวสำหรับเมืองกรุงฯ และผลกระทบที่ส่งถึงเรา 


พื้นที่สีเขียวในเมืองกรุง ถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยที่กล่าวไป ทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้น จนทำให้สวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปอดของเมืองนั้น ต้องเป็นการลงทุนจากภาครัฐเท่านั้น

ดังนั้น สำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตที่สามารถสัมผัสกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างเต็มที่ และมีกำลังทรัพย์ที่จะลงทุนกับที่อยู่อาศัยในระยะยาว การเลือกอสังหาริมทรัพย์หรือโครงการคอนโดมิเนียมที่จัดเตรียมพื้นที่สีเขียวให้อย่างพอเพียง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้ ซึ่งหากมองในแง่ของการลงทุนแล้ว ไม่ว่าจะในแง่ของสุขภาพร่างกาย หรือในแง่ของจิตใจ การลงทุนกับพื้นที่สีเขียวที่อยู่ใกล้ตัวย่อม “คุ้มค่า” อย่างแน่นอน

ที่มา: 1 2 3 4 5

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฟอกปอดหน่อยไหม? รวมพิกัดสวนกลางกรุง เดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้า

พลัสฯ จะพาไปฟอกปอดที่สวนกลางกรุงหลายแห่ง ที่นอกจากจะไม่ไกลแล้ว ยังเดินทางง่าย ใกล้รถไฟฟ้า จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมากันเลยครับ อ่านต่อ

เจาะลึกชุมชน T77 แหล่งไลฟ์ไตล์ที่ครองใจชาวไทยและต่างชาติในโซนสุขุมวิท

ทำความรู้จัก T77 Community เมืองต้นแบบแห่งอนาคต และพื้นที่สีเขียวแห่งเดียวใจกลางสุขุมวิท อ่านต่อ

สำรวจย่านรัชดาภิเษก - ห้วยขวาง ทำเลกลางเมืองอนาคตไกล ที่ไม่ว่าใครก็ห้ามมองข้าม

พลัสฯ พาสำรวจย่านรัชดาภิเษก - ห้วยขวาง ที่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ ที่รวมเอาไว้ด้วยย่านการค้าขายในชุมชน ตลาด ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน ร้านค้าและร้านอาหารอีกมากมาย อ่านต่อ

ค้นหาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่คอนโดให้เช่าเช่าคอนโดคอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02688 7555 หรือ คลิกที่นี่

ติดต่อทีมงาน Plus Brokerage Service

เรื่องเด่นน่าสนใจ

เรื่องราวยอดนิยม

โครงการแนะนำ

Free E-book

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ