พลัสฯ มัดมาให้ รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2565 ที่คนซื้อบ้าน ซื้อคอนโดต้องรู้

02 ก.พ. 2022 ภาษีและการเงิน


รู้จักเคล็ดลับการผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด ให้หมดไว และประหยัดดอกเบี้ย ด้วยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ทำความเข้าใจการรีไฟแนนซ์ และการเปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร รวมถึงเงื่อนไข และข้อจำกัดการทำรีไฟแนนซ์ได้ที่นี่

หลายคนอาจยังไม่รู้ การกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อคอนโด หรือสมัครสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย เมื่อเราได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ทำข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องชำระ จะเป็นดอกเบี้ยคงที่ หรือดอกเบี้ยลอยตัวก็ตามแต่ เมื่อเราผ่อนชำระไปสักระยะหนึ่งแล้ว เราไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดไว้ตลอดไป 

เราสามารถเปลี่ยนธนาคารเพื่อยื่นขอสินเชื่อบ้านใหม่ หรือใช้ธนาคารเดิมแต่ขอให้ธนาคารพิจารณาดอกเบี้ยใหม่ได้ การดำเนินการในลักษณะนี้เรียกกันว่า การทำรีไฟแนนซ์บ้าน

รู้จักรีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ตัวช่วยลดภาระการผ่อนบ้านได้จริงไหม?

รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) คือ การทำให้หนี้ที่มีอยู่ได้รับผลประโยชน์ที่ดีกว่าเดิม หรือการขอให้ธนาคารพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละงวดลดลง ปัจจุบันการทำรีไฟแนนซ์บ้านเป็นที่นิยมมาก เพราะจะช่วยให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้เงินผ่อนชำระที่เราจ่ายไปในแต่ละงวดนั้นไปหักที่เงินต้นได้มากขึ้น ทำให้ผ่อนหมดไวขึ้นนั่นเอง 

แถมยังมีสถาบันการเงินมากมายมีโปรโมชั่น และข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจให้เลือกหลากหลาย และได้รับเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ดีกว่าเดิมด้วย

แต่การทำรีไฟแนนซ์บ้านก็ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเพราะสินเชื่อบ้านเป็นหนี้ระยะยาว จำนวนเงินก้อนใหญ่ และการทำรีไฟแนนซ์บ้านแต่ละครั้งก็จำเป็นต้องอยู่ในกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด และอาจมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เข้ามา

รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องกี่ปี? 

การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะทำให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง เพราะนานวันไปอัตราดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้น แต่การทำรีไฟแนนซ์บ้านสามารถทำได้หลังจากผ่อนไปแล้ว 3 ปี โดยจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยลดลง และหากต้องการปิดบัญชีให้เร็วขึ้น สามารถพิจารณายอดผ่อนต่อเดือนมากขึ้น ตามฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย 

รีไฟแนนซ์บ้าน ก่อน 3 ปีได้หรือไม่? จำเป็นไหมต้องรีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปี?

เงื่อนไขที่ทุกสถาบันการเงินกำหนดให้ผู้กู้สินเชื่อสามารถทำการรีไฟแนนซ์บ้านได้ คือ สัญญาที่ทำการขอสินเชื่อกับธนาคารเดิมนั้นต้องหมดอายุลงก่อน โดยส่วนมากจะกำหนดระยะเวลาไว้ที่ 3 ปี ในกรณีที่เราต้องการขอทำรีไฟแนนซ์บ้านก่อนสัญญาหมดอายุนั้นจริงๆ แล้วก็สามารถทำได้ แต่อาจต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือเบี้ยปรับตามที่กำหนด เพราะถือว่าเป็นการฉีกสัญญา

การทำรีไฟแนนซ์บ้านควรทำทุกๆ 3 ปี เพราะในช่วงที่แต่ละธนาคารนำเสนอโปรโมชั่นและอัตราดอกเบี้ยที่น่าดึงดูดเพื่อจูงใจให้เรายืนขอสินเชื่อ เมื่อหมดโปรโมชั่น (หลังจาก 3 ปี) อัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำรีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปีเสมอ เพื่อหาอัตราดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม เช่น อัตราดอกเบี้ยลดลง ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง หรือระยะเวลาการผ่อนชำระนานขึ้น

เคล็ดลับการทำรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี 

ควรติดต่อธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่เพื่อแจ้งความต้องการทำรีไฟแนนซ์บ้านล่วงหน้า 1-2 เดือนก่อนครบกำหนดในสัญญา เพราะธนาคารต้องใช้เวลาในการพิจารณาสินเชื่อใหม่ และทำเรื่องอนุมัติสินเชื่อเหมือนการกู้ครั้งใหม่ เราจะได้ดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านคู่ขนานไปพร้อมๆ กันได้เลยไม่ต้องรอให้สัญญาหมดเสียก่อนจะได้ไม่เสียเวลา และมีระยะเวลาคาบเกี่ยวที่ดอกเบี้ยพุ่งทะยานสูงขึ้น

รีไฟแนนซ์บ้าน มีขั้นตอนอย่างไร?

  1. ติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อสรุปยอดหนี้สินเชื่อบ้าน พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขสัญญาสินเชื่อเดิม ระยะเวลาที่โปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในสัญญาจะหมดลง

  2. เลือกธนาคารที่ต้องการทำรีไฟแนนซ์บ้าน พิจารณาจากเงื่อนไขการผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าเดิม

  3. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการรีไฟแนนซ์บ้าน

  4. ยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารที่ถูกใจ (ควรดำเนินการยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านก่อนสัญญาเก่าจะหมด 1-2 เดือนล่วงหน้า) หากเปลี่ยนธนาคารใหม่ ให้ติดต่อกับธนาคารเก่าเพื่อนำเอกสารไปไถ่ถอนบ้านจากสินเชื่อเดิม โดยคิดยอดที่ต้องจ่ายเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ย (นับจนถึงวันไถ่ถอน) จากนั้นติดต่อกับธนาคารใหม่เพื่อทำสัญญาใหม่

  5. นัดเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ธนาคารมาภายในวันเดียวกันเพื่อชำระหนี้ และไปที่สำนักงานที่ดิน ณ เขตที่ตั้งของทรัพย์สิน เพื่อทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ แล้วมอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคารใหม่

รีไฟแนนซ์บ้าน เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง? 

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการทำรีไฟแนนซ์บ้านมักจะคล้ายๆ กันทุกธนาคาร และใช้เอกสารพิจารณาเหมือนการยื่นขอสินเชื่อใหม่ ดังนี้

1. เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล

  • เอกสารที่เกี่ยวกับข้อมูลของผู้กู้ ใช้เพื่อยืนยันตัวตนกับธนาคาร
  • สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า/ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาใบมรณะบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)

2. เอกสารแสดงหลักประกันที่นำมารีไฟแนนซ์บ้าน

  • สำเนาแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ห้องชุด
  • ใบอนุญาติปลูกสร้าง/หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่นสำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือสัญญาให้ที่ดิน ทด.14
  • สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน
  • สำเนาสัญญากู้เงินธนาคารเดิม
  • สำเนาใบเสร็จเงินกู้เดือนล่าสุด
  • แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป

3. เอกสารแสดงรายได้ แบ่งประเภทของผู้มีรายได้เป็น 2 แบบด้วยกัน

สำหรับบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ

  • สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน(ตัวจริง)
  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

สำหรับบุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจส่วนตัว

  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
  • สำเนารายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนา ภ.พ. 30 (ถ้ามี)

 *ในทั้ง 2 ประเภท ถ้ามีผู้กู้ร่วมก็ต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสารแสดงรายได้ดังกล่าวด้วยเช่นกัน

รีไฟแนนซ์บ้าน มีค่าใช้จ่ายไหม? 

การทำรีไฟแนนซ์บ้านก็เปรียบเสมือนการยื่นกู้ขอสินเชื่อครั้งใหม่ อาจมีค่าดำเนินการเช่นกัน ดังนั้นการพิจารณาขอรีไฟแนนซ์ไม่ว่ากับธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ จำเป็นต้องคิดคำนวณให้ดีว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงประหยัดกว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการทำรีไฟแนนซ์หรือไม่

• ค่าประเมินราคา (อาจมีค่าใช้จ่าย หรือไม่มี ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร)
• ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้
• ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน(ไม่เกิน 10,000 บาท)
• ประกันอัคคีภัย (โดยปกติต้องทำทุก 1-3 ปี ตามกฎหมาย)
• ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร

รีไฟแนนซ์บ้าน ที่ไหนดี? 

เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำรีไฟแนนซ์บ้านแน่นอนว่าเราต้องหาข้อมูลเพื่อมาทำการเปรียบเทียบกับธนาคารเดิม และอัตราดอกเบี้ยที่เราเคยได้รับ เพื่อลดภาระการผ่อนชำระบ้านลง ไม่ใช่ปล่อยให้ดอกเบี้ยพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันธนาคารแทบทุกแห่งจะมีสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย และมีสินเชื่อประเภทรีไฟแนนซ์บ้านโดยเฉพาะ แตกต่างกันไปตามอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขการผ่อนชำระ

พลัสฯ มัดรวมมาให้แล้วกับ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านปี 2565 ที่คนซื้อบ้าน ซื้อคอนโดต้องรู้

ธนาคาร ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เงื่อนไขการทำรีไฟแนนซ์บ้าน จุดเด่น
อาคารสงเคราะห์ (GHB)
 ติดต่อธนาคาร

ระยะเวลาการกู้ ไม่น้อยกว่า 4 ปี และไม่เกิน 40 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี

 ผ่อนสบาย 40 ปี ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 3.15% ปีแรก
ออมสิน (GSB)
 2.5% ทำประกันกับทางธนาคาร ปลอดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือนแรก ผ่อนต่ำปีแรกล้านละ 1,500 บาทต่อเดือนาร
กรุงไทย (KTB)

2.70%

 ไถ่ถอนเพื่อรีไฟแนนซ์ก่อน 3 ปี มีค่าธรรมเนียม 3% ของยอดหนี้คงเหลือ ฟรี ค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.75% ต่อปี
ไทยพาณิชย์(SCB)
 ติดต่อธนาคาร วงเงินกู้สูงสุด 100%ของราคาประเมินหลักประกัน เฉพาะกรณีบ้านหลังแรกเท่านั้น เลือกผ่อนได้สบายตามความต้องการาร
กสิกรไทย(KBANK)
 5.97% มีค่าประเมินราคาหลักประกัน 3,000 บาท รู้ผลอนุมัติภายใน 3 วัน
กรุงเทพ(BBL) 3.45% - 3.53% คิดค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่
กรุงศรีอยุธยา (BAY)
 3.30% วงเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาทขึ้นไป ฟรี! ค่าประเมินหลักทรัพย์ ฟรี! ค่าจดจำนอง  ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.5% ปีแรก
แลนด์แอนด์เฮาส์(LH)
 2.85% วงเงินกู้เริ่มต้น 1.0 ล้านบาท และราคาประเมินหลักประกัน (แนวราบ) ไม่น้อยกว่า 2.0 ล้านบาท หรือ (แนวสูง) ไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.59% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
ทีเอ็มบีธนชาต (ttb)
 2.75% วงเงินสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินธนาคาร ฟรี ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย, ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ค่าจดทะเบียนจำนอง ตามเงื่อนไขที่กำหนด

*ข้อมูลตามตารางด้านบนอัปเดต ณ เดือน กุมภาพันธ์ 2565 กรุณาตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขจากธนาคารโดยตรง

ถ้าธนาคารเก่าจะลดดอกเบี้ยให้ ควรอยู่ที่เดิม หรือรีไฟแนนซ์บ้านดี? 

แน่นอนว่าธนาคารปัจจุบันย่อมไม่อยากเสียลูกค้าไป ก็อาจจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่างๆ ให้ และอาจแจ้งว่าหากทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อขอเปลี่ยนธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม เราก็ต้องมาคำนวนดูว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมานั้น เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนต่างของดอกเบี้ยที่ลดลงนั้นแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด หากเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มากการย้ายธนาคารก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าของการลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยบ้านลง

สรุป PLUS+ GUIDE 3 ข้อต้องรู้ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน

  1. รีไฟแนนซ์บ้านแล้วดอกเบี้ยต้องลดลง

  2. ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ต้องมากกว่า ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านที่เพิ่มขึ้น

  3. แสดงหลักฐานรายได้ หรือทรัพย์สินเพิ่มเติม (ที่ไม่ติดเงื่อนไขการผ่อนชำระ) มาประกอบเพื่อช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านได้เงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ซื้อ ขาย เช่า บ้าน คอนโด ผ่าน Agent กับ หาทำเอง แบบไหนที่เหมาะกับเรา?

เวลาแบบนี้ซื้อคอนโดดีไหม? ทำเลไหนตอบโจทย์สุด? อยากเช่าคอนโดติดรถไฟฟ้า แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร? มีประกาศเต็มไปหมด คอนโดมือสองทั้งราคาดีคุ้มค่า แต่เอกสารเรื่องกู้โอนนี่ต้องเริ่มยังไงนะ? ซื้อคอนโดผ่าน agent ต้องเสียค่านายหน้ารึเปล่านะ? จะทำเองก็ดูมีขั้นตอนเยอะจัง ถ้าไม่อยากปวดหัวกับเรื่องเหล่านี้…คำตอบอยู่ที่นี่แล้วครับ อ่านต่อ

คอนโดพร้อมอยู่ 2564-2021 ลิสต์เรื่องที่คุณอยากรู้ รวบรวมไว้ที่นี่ที่เดียว

รวมทุกเรื่องที่ต้องการรู้ ซื้อ เช่า คอนโดพร้อมอยู่ 2564 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ 2564 คอนโดพร้อมอยู่ 2564 ไม่เกิน 3 ล้าน คอนโดมือสอง คอนโดติดรถไฟฟ้า คอนโดหรู คอนโดหรู คอนโดแสนสิริ คอนโดสุขุมวิท คอนโดจตุจักร คอนโดพระราม 9 อัพเดทล่าสุด เปรียบเทียบให้คุณได้หาข้อมูลก่อนตัดสินใจ อ่านต่อ

เจาะลึกชุมชน T77 แหล่งไลฟ์ไตล์ที่ครองใจชาวไทยและต่างชาติในโซนสุขุมวิท

เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตในเมือง หลายคนอาจนึกไปถึงการได้อาศัยอยู่บนทำเลเส้นหลักที่ใกล้ หรือติดรถไฟฟ้า เต็มไปด้วยความพลุกพล่านของผู้คนและแสงสีที่ไม่เคยหลับใหล แต่ในพื้นที่กลางกรุงของสุขุมวิทแห่งนี้ ยังมีชุมชนอันสงบร่มรื่น รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก บนทำเลที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าและทางด่วน และแม้ชุมชนนี้จะตั้งอยู่มาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว ก็ยังได้มีกระแสตอบรับในการอยู่อาศัยไม่เสื่อมคลาย อ่านต่อ

หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนบริการอสังหาริมทรัพย์ ให้คำปรึกษาฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายเช่าคอนโดมือสองครบทุกขั้นตอน บริหารโครงการที่พักอาศัย/โครงการเพื่อการพาณิชย์ บริหารงานขายและการตลาดโครงการ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ กับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ


ลงทะเบียนเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมจากโครงการที่ท่านสนใจ

เรื่องเด่นน่าสนใจ

เรื่องราวยอดนิยม

โครงการแนะนำ

Free E-book

undefined undefined undefined

undefined undefined undefined

กรอกอีเมลของคุณเพื่อดาวน์โหลด