เศรษฐกิจแบบนี้ควรรัดเข็มขัดอีกนานแค่ไหน ลงทุนอสังหาฯ ยังน่าสนใจหรือไม่ ?
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า
อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้ว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา หลายธุรกิจหยุดชะงัก ขาดเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อการลงทุน ซึ่งเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวจากสถานการณ์โควิดระลอกล่าสุด ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่คาดว่ามีแนวโน้มที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหากมีการกระจายวัคซีนที่ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นจึงต้องติดตามนโยบายพิเศษและมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ที่จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพใหญ่ เช่น การเปิดประเทศ รวมถึงแผนการกระจายวัคซีนด้วยเช่นกัน ในส่วนของนักลงทุนนั้นก็อาจมีความกังวลใจและชะลอการลงทุนมาแล้วชั่วระยะหนึ่ง
แต่เราควรรัดเข็มขัดด้านการใช้จ่ายลงทุนกันอีกนานแค่ไหน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ยังน่าสนใจหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ต้องมีการประเมินจากหลายปัจจัยด้วยกัน
สำหรับนักลงทุนที่ชะลอการลงทุนอยู่ หรือผู้ที่สนใจอยากจะเข้าสู่วงการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ต้องเริ่มต้นจากการประเมินสถานภาพทางการเงินของตนในปัจจุบัน
ความมั่นคงทางรายได้ เปรียบเทียบรายรับและรายจ่ายของตนเองในแต่ละเดือน ว่ามีภาระเท่าไหร่ มีเงินเหลือมากน้อยแค่ไหน วางแผนค่าใช้จ่ายในระยะยาวเพื่อให้ประเมินได้ว่าในอนาคตจะมีเงินเหลือประมาณเท่าไหร่ และที่สำคัญต้องเผื่อเงินใช้จ่ายสำรองในกรณีฉุกเฉินไว้ด้วย
โดยหากมีพื้นฐานการเงินค่อนข้างมั่นคงหรือมีเครดิตมากพอที่สามารถลงทุนได้ ในวิกฤตเช่นนี้ก็ยังมีปัจจัยทางการลงทุนที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากหลายโครงการมีการทำราคาพิเศษ โปรโมชั่นข้อเสนอเพิ่มมากมาย จึงเป็นโอกาสให้เข้าถึงการลงทุนในต้นทุนที่ต่ำลงมากจากสถานการณ์ปกติ และด้วยธรรมชาติของที่ดินเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ยิ่งนานวันจึงมีราคาเพิ่มสูงขึ้น มูลค่าอสังหาริมทรัพย์จึงเพิ่มสูงตาม
โดยทิศทางของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมาในอดีต มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาตลอด นอกจากปรับตามราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากการขยายของตัวเมืองและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้น
โดยพบว่าราคาที่ดินในกรุงเทพมหานคร นับตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% ต่อปี และยังพบการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงแม้อยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจอย่างปัจจุบัน ยิ่งหากเป็นที่ดินที่มีศักยภาพอย่างที่ดินรอบ ๆ เส้นทางรถไฟฟ้า ราคาที่ดินก็จะสูงขึ้นตาม เช่น ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าในโซนสุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่สถานี พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย-พระโขนง-อ่อนนุช พบว่าที่ดินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 12% ต่อปี
สำหรับคอนโดมิเนียมนั้น ในโซนสุขุมวิทตอนกลางนี้ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดินในย่านศูนย์กลางธุรกิจที่อยู่กรุงเทพชั้นในมีราคาสูง ทำให้คอนโดมิเนียมในพื้นที่ดังกล่าวมีราคาสูง ค่าเช่าสูงตาม
ดังนั้นทำเลที่ขยับออกมาแต่ยังเดินทางสะดวกอย่างโซนสุขุมวิทตอนกลางนี้จึงมีความน่าสนใจในแง่มีดีมานด์การเช่าที่ดี และนอกจากดีมานด์การเช่าจากกลุ่มคนทำงานแล้วยังมีสัดส่วนผู้เช่าชาวต่างชาติสูงด้วยเช่นกัน และมีผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปี
ดังนั้นหากผู้ที่มีความสนใจอยากจะลงทุน หากมีความพร้อมและประเมินสถานการณ์มาอย่างรอบด้านแล้ว ช่วงนี้อสังหาริมทรัพย์ก็นับว่าเป็นตลาดของผู้ซื้อ
การลงทุนจึงควรเลือกโครงการที่มีคุณภาพด้านงานก่อสร้าง เลือกทำเลศักยภาพที่มีดีมานด์การเช่าที่ดี คือเดินทางสะดวกหรืออยู่ในบริเวณรถไฟฟ้า ใกล้ออฟฟิศสำนักงานหรือเดินทางเชื่อมต่อโดยใช้เวลาไม่มาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมครบครัน
และที่สำคัญควรพิจารณาเลือกโครงการที่มีบริการหลังการขายที่ดี มีนิติบุคคลในการดูแลบริหารโครงการอย่างผู้เชี่ยวชาญ สามารถดูแลสินทรัพย์ของเราให้มีสภาพดีและมีมูลค่าเพิ่มในระยะยาวได้
ดังนั้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันมีความน่าสนใจหรือไม่นั้น มองว่าแม้ในตอนนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเป็นช่วงขาลง แต่โดยลักษณะของตลาดที่มีการเคลื่อนไหวเป็น Circle เชื่อว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ จึงพบว่านักลงทุนหลายรายขยายพอร์ตของตนเองเพื่อรอรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- อสังหาฯ เตรียมตั้งรับแรงกระแทกจากวิกฤตโควิด-19
-
ผ่าทางรอดอสังหาฯ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
-
นิติบุคคลคอนโด หมู่บ้าน ควรจัดการอย่างไร เมื่อโควิด-19 มาถึงตัว

หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4