Wellness ในอาคารสำนักงานโตรับกระแสรักสุขภาพ

14 ธ.ค. 2020 พลัสทอล์ก


กระแสของการให้ความสำคัญกับสุขภาวะ (Wellness) กลายเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใส่ใจการใช้ชีวิตและการเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น สะท้อนได้จากรายงานของ Technavio ที่ระบุว่าตลาด Health and Wellness ปี 2020 จะเติบโตสูงถึง 6.30% การเติบโตนี้ทำให้หลายๆ 

ธุรกิจได้จับกระแสเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล อุปกรณ์ไอที ที่พักอาศัย ธุรกิจด้านอาหาร การท่องเที่ยว รวมไปถึงธุรกิจอาคารสำนักงานก็ได้ให้ความสำคัญกับเทรนด์ Wellness เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เจ้าของอาคารหลายแห่งในประเทศไทยของเราก็ได้ให้ความสำคัญกับสุขภาวะมากขึ้น เพราะอาคารสำนักงานนั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเหล่าพนักงานนับร้อยนับพันชีวิต 

ซึ่งบางคนใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ที่สำนักงานมากกว่าอยู่ที่บ้าน ดังนั้น หากอาคารสำนักงานมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความคิดใหม่ๆ ในการทำงานรวมถึงส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้อาคารในระยะยาว ย่อมก่อให้เกิดความสุขอย่างประเมินค่าไม่ได้

ปัจจุบันอาคารสำนักงานทั่วโลกได้ตอบรับกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่มีการประเมินมาตรฐาน WELL และ Fitwell เพื่อมอบให้กับอาคารที่ออกแบบและบริหารจัดการที่ใส่ใจต่อสุขภาวะของพนักงานและผู้ใช้อาคาร ประเทศไทยของเราเองก็เริ่มเห็นอาคารสำนักงานหลายแห่งปรับปรุงให้กลายเป็นรูปแบบ Wellness ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี 

อีกทั้งในปัจจุบันก็เริ่มมีอาคารสำนักงานในประเทศไทยที่สามารถบรรลุมาตรฐาน Fitwell ด้านการบริหารจัดการอาคารระดับโลก ซึ่งจะเป็นการช่วยปลุกกระแสให้อาคารสำนักงานหันมาใส่ใจสุขภาวะของผู้ใช้อาคารมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าในอีกไม่นานจะมีอาคารสำนักงานหลายแห่งสามารถคว้ารางวัลมาให้คนไทยได้ภูมิใจเช่นกัน

สำหรับเทรนด์ Wellness ในอาคารสำนักงานไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะอาคารสร้างใหม่ที่ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่สำหรับอาคารที่ก่อสร้างมานานแล้วก็สามารถเปลี่ยนแปลงสู่  เทรนด์แห่งสุขภาวะได้เช่นกัน เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดการสัมผัสลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยการสแกนใบหน้าเข้าอาคาร การใช้กล้องบันทึกทะเบียนรถแทนการแลกบัตรจอดรถ 

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มรอบในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสำนักงาน รวมถึงการจัดการขยะและการรีไซเคิลของเหลือใช้ในสำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างสุขภาวะของผู้ใช้อาคารสำนักงานที่ดีได้เช่นกัน 

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจของอาคารสำนักงานที่ดี ก็คือการมีผู้ดูแลอาคารที่มีความเข้าใจระบบของอาคาร และสามารถดูแลระบบต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอาคารที่เน้นเรื่องสุขภาวะ เพราะแม้อาคารจะถูกออกแบบมาด้วยคอนเซปต์ที่ดี ใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ใช้อาคารในระยะยาว แต่หากผู้ดูแลขาดความเข้าใจก็จะทำให้อาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่แท้จริงได้ 

เช่น อาคารที่มีการติดตั้งระบบกรองอากาศฆ่าเชื้อโรคที่ทันสมัยแต่หากไม่มีการบำรุงรักษาระบบกรองอากาศให้เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการกรองอากาศลดลง และหากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้อาคารในระยะยาวได้ นอกจากนี้หากระบบต่างๆ ของอาคารไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ ก็จะทำให้ชำรุดเสียหายก่อนกำหนดได้เช่นกัน ดังนั้นหากตลาดสำนักงานกำลังเติบโตตามกระแส Wellness ก็จะมีอีกตลาดหนึ่งที่เติบโตควบคู่กันไปอย่างน่าสนใจ นั่นคือ “ธุรกิจบริหารจัดการอาคารสำนักงาน” นั่นเองครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง


พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่  02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายฝากเช่าได้เลยครับ  



ติดต่อทีมงาน PLUS Living Management

เรื่องเด่นน่าสนใจ

Free E-book

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ