10 วิธีซ่อมแซมของใช้ในบ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องง้อช่าง
ที่อยู่อาศัยของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโด ย่อมมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นบ้าง เมื่อเวลาผ่านไปข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านหรือคอนโดเรา ก็ย่อมเสื่อมสภาพไปตามเวลาและการใช้งาน จึงต้องมีการเปลี่ยนของใหม่ หรือซ่อมของเก่าที่มีอยู่เป็นธรรมดา
แต่ในบางครั้งการซ่อมแซมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องรอช่างเสมอไป หากเรารู้วิธีการซ่อมที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายไปในตัว
ส่วนปัญหาสุดเบสิคที่แทบทุกบ้านอาจพบเจอ คงจะหนีไม่พ้น แอร์ไม่เย็น ฝักบัวไหลไม่แรง เปลี่ยนสายชำระ ตั้งรหัสประตูดิจิตอล ชักโครกตัน ท่อน้ำตัน เปลี่ยนหลอดไฟ ตู้ไขไม่แน่น รวมถึงความยากในการทำความสะอาดร่องประตูเล็กๆ ฯลฯ
แต่วันนี้ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะพลัสฯ มี 10 วิธีซ่อมแซมของใช้ในบ้านแบบง่ายๆ มาบอกต่อ ที่คุณเองก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องรอช่างให้กังวลใจมาฝากกันครับ
1. วิธีปรับแอร์ยังไงให้เย็น
ทำไมแอร์ไม่เย็น?!! ปัญหาแอร์ไม่เย็นคงจะเป็นปัญหากวนใจสุดฮิตของหลายๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อน ก่อนอื่นเลยต้องกลับมาดูที่การตั้งค่าของรีโมทแอร์ก่อนว่าเราเลือกโหมดการทำงาน (MODE) ไว้ถูกต้องแล้วหรือยัง ทีนี้มารู้จักแต่ละโหมดกันก่อน- โหมด Auto หรือ โหมด I FEEL หากเลือกโหมดนี้แอร์จะตั้งอุณหภูมิและความเร็วพัดลมโดยอัตโนมัติ ระบบจะเป็นฝ่ายกำหนดอุณหภูมิและความเร็วพัดลมให้เอง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องที่เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิตรวจพบได้ในขณะนั้น
- โหมด Cool หรือโหมดทำความเย็น เป็นโหมดการทำงานที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยเมื่อกดปุ่ม แอร์จะเข้าสู่รูปแบบการทำงานสำหรับทำความเย็น และคงระดับอุณหภูมิให้อยู่ในขอบเขตที่เรากำหนด
- โหมด Dry หรือโหมดลดความชื้น ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์รูปหยดน้ำ แอร์จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องลดความชื้นมากกว่า
- โหมด Fan หรือโหมดพัดลม ระบบจะตัดการทำงานในส่วนของชุดคอนเด็นซิ่งยูนิตที่อยู่นอกอาคารออกไป เหลือไว้แต่เพียงชุดแฟนคอยล์หรือคอยล์เย็นในอาคารที่จะยังคงทำงานอยู่ พัดลมคอยล์เย็นจะยังคงทำงานอยู่ ผู้ใช้งานสามารถปรับความเร็วพัดลมได้ แต่ไม่สามารถตั้งอุณหภูมิได้
จบคอร์สการตั้งค่าโหมดต่างๆ เรียบร้อยแล้วแต่แอร์ก็ยังไม่เย็นแสดงว่าการปรับอุณหภูมินั้นไม่ได้ช่วยนัก แต่ปัญหาที่แท้จริงนั้นอาจจะเกิดจากการที่ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปอุดตันข้างใน ทำให้ลมแอร์ไม่เป่าออกมาเท่าที่ควรดังนั้นเราจึงต้องนำฟิลเตอร์แอร์หรือแผ่นกรองอากาศออกมาทำความสะอาดด้วย ทำได้ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนการทำความสะอาดและดูแลรักษาฟิลเตอร์แอร์
Step1 ถอดตัวฟิลเตอร์แอร์ออกมาจากตัวเครื่องปรับอากาศ
Step2 ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์ โดยการล้างด้วยน้ำเปล่า หรืออาจใช้น้ำยาทำความสะอาดร่วมด้วย
Step3 ตากฟิลเตอร์แอร์ให้แห้งสนิท และนำใส่กลับเข้าไปในเครื่องปรับอากาศเหมือนเดิม
2. วิธีกำจัดฝุ่นและคราบสกปรกจากรางประตู ซอกเล็กๆ ก็ล้างออกได้ง่าย
รู้หรือไม่ว่ารางประตูเป็นจุดนึงที่สกปรกที่สุดของบ้าน?! สาเหตุนั้นมากจากการทำความสะอาดที่ยากลำบาก ทำให้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นก็ไม่สามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมในรางเล็กๆ นี้ให้หมดเกลี้ยงได้
วิธีทำความสะอาดถูกต้อง คือการหาอุปกรณ์ ที่มีขนาดพอดีกับรางประตู เพื่อสามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมได้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1). สก๊อตซ์ไบรต์ หรือ ฟองน้ำ 2). ปากกาเมจิก 3). คัตเตอร์
ขั้นตอนการทำความสะอาดรางประตู
Step1 นำฟองน้ำมาวางทาบกับรางประตู และใช้ปากกาเมจิกขีดบนฟองน้ำตามแนวขอบราง เพื่อวัดระยะให้พอดีกับ ขนาดรางประตู
Step2 ตัดฟองน้ำให้เป็นร่องตามที่ขีดไว้ เพื่อให้สามารถเสียบพอดีกับร่องประตู
Step3 นำฟองน้ำไปชุดน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาด และเช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติ
3. วิธีแก้ปัญหาฝักบัวน้ำไหลไม่แรง
เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจรู้สึกว่าน้ำจากฝักบัวไม่ไหลแรงเท่าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีคราบสบู่และ สิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปอุดตันเรื่อยๆ ทำให้น้ำไม่ไหลออกมาได้เต็มที่เท่าที่ควร
การแก้ปัญหาง่ายๆ นั่นก็คือ การล้างหัวฝักบัวนั่นเอง เพียงถอดหัวฝักบัวออกมาขัดทำความสะอาดให้คราบต่างๆ ออกไป ก็จะทำให้น้ำสามารถไหลออกมาได้ดีขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อหัวฝักบัวใหม่ หรือตามช่างมาจัดการ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1). แปรงสีฟัน 2). เข็ม
ขั้นตอนการทำความสะอาดหัวฝักบัว
Step1 หมุนหัวฝักบัวออกมาจากตัวฝักบัว
Step2 ใช้แปรงสีฟันขัด และใช้เข็มเจาะตามรู เพื่อนำสิ่งสกปรกออก และเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวก
Step3 หมุนหัวฝักบัวกลับเข้าไป และใช้งานได้ตามเดิม
ด้วยอุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง และขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน คุณเองก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง ยิ่งช่วงนี้ทำให้พวกเราอยู่บ้านกันมากขึ้น การจัดการปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในที่อยู่อาศัยด้วยตัวเอง นอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนไปในตัวอีกด้วย
หากใครยังไม่เข้าใจวิธีทำสามารถดูคลิปวิดีโอได้ที่ด้านล่างนี้
4. วิธีแก้ปัญหาส้วมตัน ชักโครกกดไม่ลง
ในบรรดาปัญหาสารพัดตัน ชักโครกตัน ถือว่าแทบจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในบ้านหลายๆ บ้าน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากของเสียไปอุดตันในทางระบาย ทำให้น้ำไม่สามารถไหลลงไปได้ หลายคนมักจะคุ้นชินกับวิธีการใช้ยางปั๊มท่อน้ำ แต่ข้อเสียหนึ่งของวิธีนั้นคือค่อนข้างเลอะเทอะ มักจะทำให้น้ำในชักโครกกระเด็นออกมา แต่เรามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น รับรองไม่เลอะเทอะแน่นอน
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1). น้ำยาล้างจาน 2). น้ำร้อน
ขั้นตอนการแก้ชักโครกตัน
Step1 เทน้ำยาล้างจานลงในชักโครก ซึ่งน้ำยาล้างจานนั้นจะช่วยทำการชำระล้างได้ดีกว่าน้ำธรรมดา
Step2 ทิ้งน้ำยาล้างจานที่เทไว้ ประมาณ 30 นาที
Step3 เทน้ำร้อนประมาณครึ่งลิตรตามลงไปในชักโครกหลังครบ 30 นาที และกดน้ำได้ตามปกติ
5. วิธีแก้ท่อตัน อ่างล้างหน้าตันอุดตัน
ท่อตันอีกหนึ่งประเภทที่หลายบ้านคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอก็คือ ปัญหาอ่างล้างหน้าตัน สังเกตได้จากเวลาที่ใช้อ่างล้างหน้าได้เพียงไม่นาน น้ำจะเริ่มระบาย และหากตันมากๆ น้ำก็จะท่วมขัง ส่วนสาเหตุนั้นมากจาก เศษเส้นผม เศษเส้นหนวด หรือ สิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปอุดตันในท่อที่ต้องระบายน้ำออกนั่นเอง เราจึงควรถอดท่อบริเวณอ่างล้างมือนี้ออกมาทำความสะอาดบ้างนั่นเอง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1). ถังน้ำ 2). ประแจ 3). แปรง
ขั้นตอนวิธีแก้ท่อตัน
Step1 ใช้ประแจถอดท่อ P-Trap คือท่อที่มีหน้าตาคล้ายตัว P ตะแคงข้าง ออกจากตัวท่อระบายน้ำ
Step2 หลังจากถอด P-Trap แล้ว นำถังน้ำมารองน้ำทิ้งและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่
Step3 นำตัวท่อ P-Trap มาล้างและขัดด้วยแปรง ด้วยความที่ท่อมีลักษณะโค้ง อาจมีสิ่งสกปรกติดอยู่ที่ออกมาไม่ได้
Step4 เมื่อล้างจนสะอาดแล้ว ประกอบท่อ P-Trap กลับเข้าเหมือนเดิม
Step5 ตรวจเช็คการระบายน้ำว่าดีขึ้นหรือไม่ รวมทั้งเช็คบริเวณข้อต่อท่อว่ามีน้ำรั่วซึมออกมาหรือไม่เมื่อเปิดน้ำ
6. วิธีแก้ปัญหาท่อระบายน้ำ ท่อน้ำทิ้งอุดตัน
ท่อเดรนที่อยู่ตามพื้น เช่น ห้องน้ำ ระเบียง และลานซักล้าง มักเป็นจุดที่หลายคนมักมองข้ามในการทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงท่อเดรนนั้นมีโอกาสอุดตันได้ง่ายมาก โดยเฉพาะท่อน้ำทิ้ง หรือ ท่อระบายน้ำในห้องน้ำ ที่ไม่ได้มีเพียงเส้นผมเท่านั้นที่อุดตันอยู่ แต่ยังมีคราบไขมันจากสบู่และแชมพูที่เราอาบน้ำสระผมทุกวันอีกด้วย ดังนั้นการทำความสะอาดท่อระบายน้ำเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
แปรง
ขั้นตอนการทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง หรือ ท่อระบายน้ำ
Step1 ถอดฝาครอบท่อระบายน้ำ และตะแกรงออกมา
Step2 ดึงเศษเส้นผมออกมาจากตะแกรง และใช้แปรงขัดคราบสิ่งสกปรกที่อยู่
Step3 ใส่ตะแกรงที่ล้างสะอาดแล้ว และฝาครอบกลับเข้าไปที่เดิม
ปัญหาท่อตันเหล่านี้จะหมดไป หากคุณรู้จักวิธีทำความสะอาดที่ถูกต้อง และหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำโดยเฉพาะตอนนี้ ไลฟ์สไตล์ของหลายคนเปลี่ยนไปเป็นหันมาอยู่ติดบ้านมากขึ้น เราจึงยิ่งควรรู้วิธีการจัดการปัญหาต่างๆ ในบ้าน เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น จะได้แก้ไขได้แม้อยู่ตัวคนเดียว
ดูคลิปวิธีการทำความสะอาด และขั้นตอนการทำได้ที่นี่เลย
7. วิธีการตั้ง/เปลี่ยนรหัสผ่านกลอนประตูดิจิตอล
ใครที่เข้ามาอาศัยในคอนโดใหม่ๆ อาจไม่คุ้นเคยกับประตูดิจิตอล ที่การใช้งานต่างออกไปจากประตูแบบกลอนที่ใช้กันตามบ้านทั่วไป สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับหลายคนคงจะเป็นการตั้งรหัสประตู โดยเฉพาะการตั้งในครั้งแรก ที่หากกดผิดแล้วคงปวดหัวน่าดู แต่แท้จริงแล้ว ขั้นตอนการตั้งรหัสประตูดิจิตอลนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
ขั้นตอนการตั้งรหัสกลอนประตูดิจิตอล
Step1 ถอดฝาครอบด้านหลังออก (บริเวณที่เปลี่ยนถ่าน)
Step2 กดปุ่ม reset ที่อยู่ด้านหลัง สังเกตจากสัญลักษณ์ตัว I บนปุ่ม
Step3 กดหมายเลข 6 ตัว ที่ต้องการจะตั้งเป็นรหัส
Step4 กดปุ่ม reset อีกครั้งหลังตั้งรหัส หากตั้งรหัสสำเร็จ ระบบจะทวนเลขให้เห็นด้านหน้าประตู
Step5 กดรหัส 6 ตัวเลขซ้ำอีกหนึ่งครั้ง ตามด้วยเครื่องหมาย * เป็นการยืนยันรหัส
ส่วนวิธีการเปลี่ยนรหัสผ่านก็ทำแบบเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามต้องศึกษาคู่มือและวิธีการตามแต่ละแบรนด์ของประตูนั้นๆ ด้วย
ดูคลิปวิธีการตั้งรหัสประตูดิจิตอล และขั้นตอนการทำได้ที่นี่เลย
8. วิธีการเปลี่ยนสายฉีดชำระ
สายชำระที่ตามบ้านใช้กันนั้น เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ก็อาจมีน้ำหยด หรือน้ำรั่วบ้าง เกิดจากชิ้นส่วนโลหะเสื่อมสภาพ นอกจากนี้สายชำระบางบ้านอาจเกิดสนิมขึ้นเร็ว เพราะอุปกรณ์ที่ซื้อมามีคุณภาพที่ไม่ดีนัก เราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสายชำระเมื่อถึงเวลาที่การใช้งานเริ่มไม่ค่อยดี
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
ประแจปากเลื่อนขนาด 8 นิ้ว
ขั้นตอนการเปลี่ยนสายฉีดชำระ
Step1 ปิดวาล์วน้ำ
Step2 ใช้ประแจหมุนข้อต่อเกลียวของสายชำระออกจากตัวสต๊อปวาล์ว และหัวฉีด
Step3 เช็คยางโอริงตรงสต๊อปวาล์วให้อยู่ในสภาพเหมือนเดิม
Step4 ใช้มือติดตั้งสายฉีดเส้นใหม่เข้าไป และใช้ประแจหมุนซ้ำเพื่อให้แน่น แต่ควรระวังหากแน่นเกินไปจะทำให้ ยางโอริงเสียหายได้
Step5 เปิดวาล์วน้ำตามปกติ และทดลองใช้สายชำระว่ามีน้ำรั่วที่จุดใดหรือไม่
9. วิธีเปลี่ยนหลอดไฟเครื่องดูดควัน
ใครที่เป็นสายชอบการทำอาหารทานเอง ย่อมได้เปิดใช้เครื่องดูดควันอยู่บ่อยๆ และปัญหาหนึ่งจากเครื่องดูดควันที่หลายคนเจอก็คือ การเปิดเครื่องติดแต่ไฟไม่ติดนั่นเป็นเพราะบางคนไม่ทราบว่าหลอดไฟที่อยู่ข้างในเครื่องนั้นสามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งนอกจากวิธีการเปลี่ยนที่ถูกต้องแล้ว เราก็ยังควรคำนึงถึงขนาดของหลอดไฟที่พอดีอีกด้วย
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
หลอดไฟขั้ว E14 220V 40W หรือ หลอดไฟ LED ขั้ว E14
วิธีเปลี่ยนหลอดไฟเครื่องดูดควัน
Step1 ดึง hood ของเครื่องดูดควันออก และถอด filter ออกมา โดยการกดตัวล็อคทั้งสองข้าง
Step2 ถอดหลอดไฟเดิมที่อยู่ด้านในเครื่องออกมาจากขั้ว
Step3 เปลี่ยนหลอดไฟใหม่เข้าไป และบิดให้แน่น
Step4 ใส่ filter กลับเข้าไปให้ลงล็อคเช่นเดิม และปิด hood กลับเข้าไป
Step5 ทดลองว่าหากดึง hood ออกมาแล้ว ไฟติดโดยอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งไฟนั้นควรจะตั้งไว้เป็นโหมดออโต้
10. วิธีซ่อมบานพับตู้
ตู้ต่างๆ ในบ้านของคุณนั้น เมื่อนานไปอาจเปิดปิดไม่ได้สนิทเหมือนเดิม เพราะบานพับของตู้นั้น มีโอกาสที่ตัว น็อตข้างในจะหลวมได้ ซึ่งเกิดจากการใช้งานเปิดปิดบ่อยๆ นั่นเอง เมื่อสังเกตเห็นว่าบานพับตู้หลวม ควรรีบแก้ไขซ่อมแซมทันที เพราะหากหล่อยให้หลวมไปเรื่อยๆ จนน็อตข้างในหลุด อาจทำให้บานตู้หลุดออกมา และจะเป็นอันตรายกับคนในบ้านได้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
ไขควง
ขั้นการซ่อมบานพับตู้
Step1 หาว่าจุดที่ทำให้บานตู้หลวมนั้น เกิดขึ้นจากน็อตตัวไหน
Step2 สังเกตเครื่องหมายบวกบนน็อต และใช้ไขควงเสียบเข้าไปตรงกลาง
Step3 หมุนไขควงจนตัวน็อตแน่น และบานพับตู้ไม่หลวม
ดูคลิปวิธีการทำ และขั้นตอนการทำได้ที่นี่เลย
นอกจากการทำความสะอาดทั่วไปที่ควรทำเป็นประจำแล้ว เราไม่ควรละเลยในการตรวจสอบของใช้ต่างๆ ในบ้าน ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ และหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา แม้จะเล็กน้อยเพียงไหน เราก็ควรที่จะใส่ใจแก้ไขให้ กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลา
เรื่องการดูแลของใช้ในบ้านอาจเป็นเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้ามไป แต่มันก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ที่อยู่อาศัยของเราน่าอยู่มากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวนะครับ
-
เทรนด์ไลฟ์สไตล์ชุมชนแบบใหม่ ตามสไตล์ NEW NORMAL
-
ปจัดระเบียบชีวิตให้ลงตัว เมื่อต้อง Work From Home
-
Sunday is Plastic day ร่วมแยกขยะให้ถูกวิธี เพื่อบ้าน เพื่อโลกของเรา
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง
สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ

ติดต่อทีมงาน PLUS Living Management
เรื่องเด่นน่าสนใจ
เรื่องราวยอดนิยม
Free E-book
.jpg?frontend_host=https%3A%2F%2Fdigitalplatform.sansiri.com)
5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่
ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ