คนซื้อบ้านต้องรู้ เมื่อความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้ทำเล

15 ก.ค. 2020 พลัสทอล์ก


บทความประจำคอลัมน์ The Bangkok Insight โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ 

โดย คุณสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์

ถึงแม้ในปัจจุบันเราจะคลายล็อกดาวน์กันแล้ว แต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด–19 ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง ส่งผลให้กิจกรรมที่เป็น New Normal หลายรูปแบบยังคงต้องดำเนินต่อ และเรายังคุ้นชินกับการใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมที่บ้านเพื่อเซฟตัวเอง 

ดังนั้นเมื่อผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยใหม่ๆ ที่เพิ่มเติมต่างจากเดิม เช่น การมีพื้นที่ออกกำลังกายที่บ้านจากเดิมที่พิจารณาเพียงห้องออกกำลังกายของส่วนกลาง ความต้องการพื้นที่สำหรับประกอบอาหารเล็กๆ การมีสวนหลังบ้านหรือพื้นที่สีเขียวในโครงการ และอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้คนยุคใหม่คำนึงถึงก็คือเรื่องของความปลอดภัย 

ซึ่งทุกวันนี้ปัจจัยด้านความปลอดภัยมีความสำคัญมากพอๆ กับเรื่องของทำเล เพราะเมื่อต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ก็ย่อมต้องการความอุ่นใจในการอยู่อาศัยตลอด 24 ชั่วโมง 

จากการสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เราพบว่าในด้านความปลอดภัยในที่อยู่อาศัยที่ผู้ซื้อต้องการ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การมีกล้องวงจรปิดที่ครอบคลุม 2.มีสัญญาณกันขโมยหรือสัญญาณเตือนภัยหากเกิดการบุกรุก 3.มีรปภ.คอยตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง 4.มีระบบประตูล็อกดิจิทัล และ 5.มีระบบคีย์การ์ดสำหรับเข้าอาคารหรือการใช้สิ่งอำนวยความสะดวก 

ซึ่งจากผลสำรวจนี้เห็นได้ว่าความต้องการเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เข้ามามีความสำคัญกับความรู้สึกของผู้ซื้อ และความปลอดภัยนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องการติดตั้งวางระบบและเทคโนโลยีเท่านั้น ต้องดูแลจัดการโดยบุคลากรคุณภาพด้วย 

ประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงนี้ เป็นสิ่งท้าทายที่แต่ละโครงการจะต้องดูแลให้ได้ ดีที่สุด โดยสามารถจัดการเหตุได้ทันเวลาหรือสามารถระงับความเสี่ยงได้ก่อนที่จะลุกลามจนเกิดเหตุขึ้น 

ซึ่งจากการที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในบทบาทงานด้านบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัย ที่ปัจจุบันดำเนินการดูแลอยู่มากกว่า 200 โครงการทั้งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม พบว่าปัจจุบันหลายโครงการได้มีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย เพื่อดูแลความปลอดภัยแก่ลูกบ้าน อาทิ การติดตั้งรั้วเซนเซอร์รอบหมู่บ้าน เพื่อตรวจจับความผิดปกติหรือมีการรุกล้ำแนวรั้ว 


การมีกล้อง CCTV Analytic ที่นอกจากจะสังเกตการณ์บันทึกภาพ ยังมี AI ที่สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติและแจ้งเตือนได้ หรือการมีศูนย์ควบคุมสังเกตการณ์จากส่วนกลางแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเชื่อมต่อระบบจากในโครงการต่างๆ เข้ามามอนิเตอร์ที่ส่วนกลาง และมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทีมนิติบุคคลในแต่ละโครงการ เพื่อประสานการตรวจสอบดูแลในพื้นที่ ณ จุดเกิดเหตุอย่างทันท่วงที 

นอกจากนี้ เรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพและสุขอนามัยก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะ New Normal จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องของการดูแลด้าน Social Distancing ในการใช้พื้นที่ส่วนกลาง การทำความสะอาดฆ่าเชื้อในบริเวณโครงการ การคัดกรองผู้มาติดต่อในโครงการที่พักอาศัย หรือเรื่องเทคโนโลยีและการจัดการแบบไร้สัมผัส (Touchless) เช่นการมีประตูเซนเซอร์เปิดปิดอัตโนมัติ การลงทะเบียนผู้มาติดต่อแบบไม่ต้องแลกบัตรโดยให้ลูกบ้านสามารถลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น 

ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยแบบ Social Distancing แล้ว ยังปลอดภัยด้านการจัดเก็บและตรวจเช็คข้อมูลผู้มาติดต่อสำหรับทีมนิติบุคคล ให้สามารถติดตามตรวจสอบได้ 

สิ่งเหล่านี้หากโครงการใดมีการดูแลบริหารจัดการที่ดี ก็จะสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สินรวมถึงสุขภาพที่ดีของผู้พักอาศัย ซึ่งการที่แต่ละโครงการจะสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในด้านรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งนั่นคือจะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ เพราะหากมีเทคโนโลยีที่ดีแต่เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจ ไม่สามารถใช้งานได้จริงก็จะทำให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

 

โดยหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลโครงการที่อยู่อาศัยจะต้องสร้างมาตรฐานในการคัดเลือกบุคลากรที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ให้มีทักษะพื้นฐานรอบด้าน เช่น พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้กำหนดมาตรฐานของผู้ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ด้านรักษาความปลอดภัย ซึ่งนอกจากต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ยังมีการเสริมทักษะพิเศษระหว่างปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เช่น หลักสูตรการช่วยเหลือทางน้ำ, การจับสัตว์เลื้อยคลาน, การดับเพลิง รวมถึงหลักสูตรปฐมพยาบาล โดยครูฝึกเป็นบุคลากรมืออาชีพที่ได้ผ่านการอบรมจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงาน แต่ยังเป็นการดูแลลูกบ้านผู้พักอาศัยในทุกมิติของการใช้ชีวิต และสร้างความอุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

𝐋𝐈𝐕-𝟐𝟒 บริการเทคโนโลยี ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวในไทยที่มีศูนย์ควบคุมฯ บริการครบวงจร ทำงานแบบไร้รอยต่อ เมื่อเกิดเหตุ ระบบจะประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าระงับเหตุและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว สนใจรายละเอียดการติดตั้ง LIV-24 ในโครงการของคุณ  02 688 7555 หรือ plus.co.th/liv24

ติดต่อทีมงาน PLUS Living Management

Free E-book

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ