4 จุดแข็งย่าน “อ่อนนุช” ทำเลน่าอยู่พร้อมแนะนำโครงการเปิดใหม่ อัปเดตล่าสุด
เมื่อเราพูดถึงย่าน “อ่อนนุช” ทุกวันนี้หลายคนก็น่าจะมีภาพผุดขึ้นมาในหัวว่า นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเหล่าพนักงานออฟฟิศต่างชาติ (Expat) ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่บอกเลยว่าในสมัยก่อนย่านอ่อนนุชแห่งนี้ถือเป็นทำเลที่ไม่ค่อยคึกคักซักเท่าไหร่
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อมีระบบขนส่งสาธารณะอย่าง BTS อ่อนนุช เข้าถึง พื้นที่จากแต่เดิมซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะอยู่ไกลจากตัวเมืองก็เริ่มมีการขยับขยายขึ้นเรื่อยๆ จนพัฒนากลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซึ่งนับเป็น “จุดแข็ง” ที่สำคัญของย่านอ่อนนุชขึ้นมา
เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับทำเลอ่อนนุชกันก่อนดีกว่า
อ่อนนุช มีชื่อเดิมว่า ซอยสุขุมวิท 77 โดยอ่อนนุชตั้งอยู่ในเขต วัฒนา, สวนหลวง และประเวศ เป็นถนนที่เชื่อมต่อเส้นทางหลายสายของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อมาจากถนนสายหลักอย่างสุขุมวิทอีกด้วย
ในปัจจุบันอ่อนนุช เป็นทำเลที่มีความเจริญรุ่งเรือง ด้วยความสะดวกสบายที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันทำให้ย่านอ่อนนุช เริ่มได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีสถานที่ไลฟ์สไตล์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space, Community Mall อ่อนนุชยังมีทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่น่าสนใจหลายที่ อย่างเช่น
- Century Plaza Sukhumvit On Nut
- The Phyll
- Habito Mall
- Lotus On Nut
- People Park On Nut
ซึ่งเป็นย่านที่เรียกได้ว่าร้อนแรงมาก ราคาที่ดินก็พุ่งสูงจนทำให้นักลงทุนอสังหาฯ ต่างหลั่งไหลเข้ามาจับจองพื้นที่เป็นจำนวนมาก และหากใครทำกำลังมองหาทำเลใหม่ๆ อ่อนนุช ถือเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและลงทุนเป็นอย่างมาก โครงการน่าอยู่น่าลงทุนในทำเลอ่อนนุชที่น่าสนใจเช่น โครงการ The Base Sukumvit 50, Kawa Haus จุดแข็งในด้านที่อยู่อาศัยของอ่อนนุชนั้น คือการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนทำงานในเมืองรวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น
The Base Sukumvit 50 ใกล้ BTS อ่อนนุช ใกล้ทองหล่อ เอกมัย อโศก ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช และเฉลิมมหานคร
ซึ่งเมื่อผู้อยู่อาศัยมีการเปลี่ยนแปลงไป พื้นที่แยกอ่อนนุชโดยรอบของย่านนี้ก็ย่อมจะต้องดึงดูดเหล่านักพัฒนาอสังหาฯ ทั้งหลาย เข้ามาสร้างสรรค์สถานที่ ที่สามารถตอบรับกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้เป็นเงาตามตัว และนั่นก็คือเป้าหมายของการออกสำรวจย่าน “อ่อนนุช” ว่าทำเลนี้จะมี “จุดแข็ง” ด้านใดที่น่าสนใจบ้าง เรามาไล่กันดูทีละหัวข้อกันเลยดีกว่า
จุดแข็งที่ 1 “อ่อนนุช” : อยู่ใจกลางเมืองแต่เดินทางง่ายขับรถหรือขึ้น BTS อ่อนนุชก็ได้ เลือกเลย
ถึงทำเลย่านอ่อนนุชจะตั้งอยู่บนถนนเส้นสุขุมวิทตอนปลาย (ซอยสุขุมวิท 77) แต่ก็ไม่ได้ทำให้จุดแข็งด้านความสะดวกในการเดินทางลดน้อยลงเลย เนื่องจากมีการเชื่อมต่อกับแนวรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช สายสุขุมวิทเหมาะสำหรับการเดินทางเข้าเมืองแบบไม่ใช้รถยนต์ได้อย่างง่าย ซึ่งทำให้เกิดโครงการใหม่ๆขึ้น เช่น The Base Sukhumvit 77
The Base Sukhumvit 77 ทำเลย่านสุขุมวิทตอนปลาย (พระโขนง -อ่อนนุช) ใกล้ BTS อ่อนนุช และห้างสรรพสินค้า Big-C และ Tesco Lotus
ในขณะเดียวกันถนนหนทางรอบๆถนนอ่อนุช ซอยสุขุมวิท 77 แห่งนี้ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนสายอื่นๆ ที่ตั้งอยู่โดยรอบได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นพระโขนง เส้นเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนพัฒนาการ รวมถึงถนนศรีนครินทร์ ยังไม่รวมถึงการที่แยกอ่อนนุชนี้สามารถเชื่อมไปขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ทำให้คนใช้รถสามารถขับขี่ต่อไปได้หลายทาง จะเข้าเมืองไปย่านสาทร-สีลม หรือจะขับออกนอกเมืองไป ดอนเมือง–รามอินทรา ก็ทำได้สบายๆ
จุดแข็งที่ 2 “อ่อนนุช” : พรั่งพร้อมด้วยพื้นที่ไลฟ์สไตล์ เลือกใช้ชีวิตได้ตามที่ต้องการ
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นว่าทำเลแยก “อ่อนนุช” นั้น ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมจากเหล่า Expat ต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมาก จึงทำให้พื้นที่ไลฟ์สไตล์โซนนี้เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้เช่นกัน
BigC แยกอ่อนนุช ถือเป็นสถานที่แรกที่ต้องเอ่ยถึง เพราะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของชุมชนย่านนี้ โดยอย่างที่ทุกคนก็รู้กันดีว่าภายใน BigC นอกจากจะมีร้านค้าและร้านอาหารมาตรฐานให้บริการแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับตั้งตลาดนัดขายของอยู่รอบๆ ห้างให้ได้จับจ่ายอีกด้วย แต่ที่ไม่เหมือนใครก็คือสินค้าที่อยู่ภายในนั้นจะเต็มไปด้วยของที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาตินั่นเอง
หรือหากใครที่ต้องการสินค้าและอาหารราคาย่อมเยาว์ลงมาหน่อย ย่านนี้ก็ยังมี “ตลาดสดอ่อนนุช” ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสดของแห้งและผักผลไม้ที่ราคาไม่สูงให้เลือกจับจ่ายกันได้อย่างสบายใจ แถมตลาดแห่งนี้ยังถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางของผู้คนในย่านนี้ เพราะเป็นที่รวมตัวของวินมอเตอร์ไซค์ รวมถึงเป็นท่ารถสองแถวสำหรับจอดรับผู้โดยสารอีกด้วย
อันที่จริงแล้วบริเวณแยกอ่อนนุช โดยเฉพาะริมถนนเส้นสุขุมวิท 77 นั้น ถือเป็นที่ตั้งของร้านอาหารแบบ Street food และคาเฟ่ที่กระจายตัวอยู่เป็นระยะให้เลือกทานกันได้อย่างสบายๆ นับเป็นอีกหลายๆ ตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการเข้าห้างสรรพสินค้า หรือไม่สะดวกในการเลือกซื้อของสดไปทำอาหารด้วยตนเอง
นอกเหนือไปจากศูนย์การค้าและร้านอาหารแล้ว ทำเลแยกอ่อนนุชแห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับที่ตั้งของสถานีตำรวจนครบาลพระโขนงอีกแห่งหนึ่ง ถือที่พึ่งหลักซึ่งช่วยสร้างความอุ่นใจและช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในโซนนี้ได้เป็นอย่างมาก
และก่อนที่เราจะไปยังจุดแข็งถัดไป สถานที่สุดไลฟ์สไตล์อีกแห่งที่ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดเมื่อมาเยือนแยกอ่อนนุชแห่งนี้ นั่นคือ “HABITO Mall” คอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “T77” (ซึ่งเราจะมาพูดถึงโซนนี้กันภายหลัง) และคอมมิวนิตี้นี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งด้านศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ T77 แห่งนี้เช่นกัน
นอกจากจะเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาชื่อดังหลากหลายแบรนด์ อาทิ Saranghae, TEIEN , Saeb Lai, PAPA SHABU Farm David’s bakery, El Mariachi Tequaria ฯลฯ แล้ว HABITO Mall ยังมีพื้นที่เอาไว้รองรับสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชันสำหรับรถเข็น ห้องให้นมบุตรที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก สนามเด็กเล่น ห้องสุขาเด็กพร้อมอ่างล้างมือสำหรับเด็ก ทั้งยังเปิดโอกาสให้คนสามารถพาน้องหมาและน้องแมวเข้ามาเดินเล่นได้อีกด้วย
จุดแข็งที่ 3 “อ่อนนุช” : ที่ตั้งของเมืองใหม่ ซ้อนเมืองใหญ่ สงบ สบายไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯ
เมืองใหม่อาจจะฟังดูเวอร์ แต่อยากบอกว่าใครที่เข้ามาเห็นโครงการ T77 ของแสนสิริก็จะคิดแบบนั้นจริงๆ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนเลยว่าโครงการ T77 หมายถึงพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่กว่า 40 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริกว่า 7 โครงการรวมอยู่ด้วยกัน
จุดเด่นหลักของโครงการ T77 นั่นก็คือความร่มรื่นแบบที่หาจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้ยาก เนื่องจากทางแสนสิริได้ดีไซน์ให้มีพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่ภายใน T77 อย่างเต็มจนเรียกได้ว่ามองไปจุดไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ยิ่งบวกกับทิวทัศน์ที่ได้จากคลองพระโขนงซึ่งอยู่ติดกับตัวโครงการอีก ก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้เลยว่านี่คือพื้นที่ที่พิเศษ ไม่วุ่นวายเหมือนกับพื้นที่โดยรอบราวกับอยู่ในโลกแห่งธรรมชาติที่มีความเป็นส่วนตัว
จุดเด่นอันดับถัดมาก็คือพื้นที่ T77 แห่งนี้เปรียบได้กับ “พื้นที่ส่วนกลาง” ขนาดใหญ่ของคอนโดมิเนียมอีก 7 โครงการที่ตั้งอยู่ด้วยกัน โดยมีทั้งมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนตามร่มไม้ ทางเดินภายในโครงการที่ให้อารมณ์เหมือนได้เดินออกกำลังกายอยู่ในสวนสาธารณะส่วนตัวขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมี HABITO Mall เป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีโรงเรียนนานาชาติที่ติดอันดับความนิยมต้นๆ ของประเทศไทยอย่าง “Bangkok Prep” ตั้งอยู่ภายในโครงการอีกด้วย
หลายคนอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาอีกว่า แล้วถ้าโครงการ T77 อันแสนคึกคักเต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยมากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเราอยากจะหาพื้นที่สำหรับพักผ่อนเป็นส่วนตัวบ้างล่ะ จะมีที่ไหนตอบโจทย์บ้าง? คำตอบน่าจะอยู่ที่โครงการ “คาวะ เฮาส์” (KAWA HAUS) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ตั้งอยู่ใน T77 ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เป็นคอนโดมิเนียมแบบแนวราบ หรือที่เรียกว่า low-rise คอนโด ด้วยเหตุนี้จึงมีความสงบกว่าคอนโดแนวสูงนั่นเอง
• รวมคอนโดติดรถไฟฟ้า High Rise และ Low Rise ราคาดี พร้อมอยู่คลิก
จุดเด่นที่สำคัญอีกประการของคอนโดแบบ low-rise ก็คือ อารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยที่จะให้บรรยากาศคล้ายกับหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมืองมากกว่า ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในย่านในกลางเมืองกรุงเทพฯ อย่างอ่อนนุช ซึ่งโครงการแบบ low-rise จะสามารถเอาพื้นที่ว่างนั้นไปใช้สำหรับสร้างความร่มรื่น หรือทำให้เป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้มากกว่า แม้ว่าทำเลของโครงการ low-rise ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ลึกกว่าโครงการติดถนนใหญ่ปกติ แต่ก็จะได้ข้อดีในแง่ของความไม่พลุกพล่านของผู้คน และเสียงรบกวนจากภายนอกที่น้อยกว่า
นอกจากนั้น ด้วยความที่โครงการแบบ low-rise ส่วนใหญ่ก็จะมียูนิตจำนวนไม่มาก ก็จะส่งผลให้การบริการจัดการของตัวโครงการนั้นง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนที่จอดรถ ความแออัดของพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากนั้นยังส่งผลให้นิติบุคคลสามารถบริหารพัฒนาพื้นที่ในโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ซึ่งด้วยความที่โครงการ คาวะ เฮาส์แห่งนี้ถือเป็นโครงการแบบ low-rise ที่รวบรวมเอาข้อดีทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน ทั้งยังตั้งอยู่ภายในในพื้นที่ T77 ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีความเป็นส่วนตัวและร่มรื่นยิ่งขึ้นไปอีก จึงทำให้ คาวะ เฮาส์ กลายเป็นคอนโดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายระดับรีสอร์ทชั้นนำ โดยทางแสนสิริได้เคลมว่าบรรยากาศตั้งแต่เดินเข้าไปยังห้องโถง พื้นที่ส่วนกลางจนถึงห้องพัก ก็ราวกับได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนตากอากาศนอกตัวเมืองในกลางย่านที่สุดจะคึกคักอย่างอ่อนนุชเลยทีเดียว
จุดเด่นที่สำคัญของโครงการ KAWA HAUS แห่งนี้ก็คือทำเล เพราะตั้งอยู่ในจุดคุ้งน้ำริมคลองพระโขนงภายในโครงการ T77 ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะเห็นวิวของพื้นที่สระว่ายน้ำส่วนกลางแบบ Free Form ดีไซน์ไร้ขอบความยาวประมาณ 32 เมตร ผสานกับทิวทัศน์ของคลองพระโขนงที่ให้ความร่มรื่นเหมาะสำหรับมานั่งรับลมยามเย็นให้สบายใจ
ที่พิเศษก็คือสระว่ายน้ำของโครงการ KAWA HAUS นี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่เรียกว่า “Lap pool”สำหรับคนที่ต้องการว่ายน้ำแบบออกกำลังกายจริงจัง รวมถึงยังมีระบบ Jacuzzi แบบน้ำร้อนและน้ำเย็นสำหรับคนที่ต้องการความผ่อนคลายอีกด้วย
ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรับแขกแทบทั้งหมดของตัวโครงการ ก็มีการออกแบบด้วยการใช้โครงการที่มีเส้นสายโค้งรับกับตัวห้องและวัสดุสำหรับตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษ ให้ความหรูหราไม่เหมือนใครตามคอนเซปต์ของความลื่นไหลจากคำว่า “KAWA” ที่แปลว่าสายน้ำนั่นเอง
ในส่วนของห้องพักนั้น ทางโครงการ KAWA HAUS จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise มีที่อยู่อาศัยทั้งหมด 546 ยูนิต ซึ่งจะมีทั้งห้องพักแบบ 1 ห้องนอนขนาด 32.5 ตร.ม ไปจนถึงขนาด 2 ห้องนอนที่ 51.25 ตร.ม. ที่แจ๋วก็คือทางแสนสิริได้นำเอาเทคโนโลยีล้ำๆ เข้ามาปรับใช้กับตัวโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ Sansiri AI BOX ซึ่งลูกบ้านจะสามารถสั่งการผ่านมือถือให้ควบคุมไฟ ปรับแอร์ และเปิดปิดทีวีได้ด้วยคำพูด
หรือในด้านความปลอดภัยก็จะมีระบบ One Time Password ซึ่งลูกบ้านสามารถแจกรหัสผ่านตัว Digital Door Lock สำหรับเข้าสู่โครงการให้กับเพื่อนได้ด้วย QR Code ที่มีกำหนดระยะเวลาหมดอายุระบุเอาไว้ ซึ่งปลอดภัยและเหมาะมากหากเราไม่สะดวกไปเปิดประตูให้แขกได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ลูกบ้านยังสามารถ Sync ระบบไม้กั้นอัตโนมัติหน้าโครงการกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ตัวไม้ยกขึ้นได้เองเมื่อเราขับรถผ่านเข้ามา
Park Court Sukumvit 77 คอนโด Low Rise 7 ชั้น 5 อาคาร 70 ยูนิต 3 Bedroom ทำเลที่ตั้งใกล้ BTS อ่อนนุช ทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนหลักอย่างอ่อนนุช
อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจนั่นก็คือ Park Court Sukumvit 77 เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ครอบครัว อีกทั้งจุดเด่นของที่นี่ก็คือ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้นั่นเอง ด้วยความที่โครงการมี Facility ที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เช่น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เหมาะกับการนำสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น หรือพาคนในครอบครัวมาปิกนิค
ทำเลที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพโซนสุขุมวิท ที่สำคัญเป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมภายในโครงการT77 Community โดย Concept ของโครงการคือต้องการเน้นความร่มรื่น และการ Luxury ที่ไม่ใช่ในเชิงความหรูหรา แต่ Luxury ในเชิงที่มีพื้นที่ดิน มีธรรมชาติมาก
ถ้าหากพูดถึงความสะดวกสบายกับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ทางโครงการก็จะมี Shuttle Service บริการรับ-ส่งภายใน T77 เรียกให้ไปส่งหน้าปากซอยได้อีกด้วย และยังใกล้เคียงกับ Community mall อย่าง Habito ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่สุดๆ
จุดแข็งที่ 4 “อ่อนนุช” : ความคุ้มค่าในการลงทุน
มาถึงจุดแข็งข้อสุดท้ายของทำเลแยกอ่อนนุช นั่นก็คือเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุนในโซนนี้ซึ่งหากวิเคราะห์กันในเชิงคุณภาพอย่างละเอียดแล้ว เราจะพบว่าทำเลในแยกอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) แห่งนี้ จัดเป็นพื้นที่สุด “ครบเครื่อง” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองด้วยรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุชก็สะดวก ออกต่างจังหวัด หรือไปสนามบิน การเกิดใหม่ของ Community Mall และ Co-working space ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติระดับสูงอย่าง “Wells International School” และโรงเรียนนานาชาติ “Bangkok Prep” ที่เปิดตัวในโครงการ T77
นอกจากองค์ประกอบภายนอกที่เต็มไปด้วยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์แล้ว อ่อนนุชซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ T77 และคอนโดมิเนียม คาวะ เฮาส์ ยังถือเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองที่หาได้ยาก ทั้งยังถูกดีไซน์ให้ออกมาได้บรรยกาศผสมผสานระหว่างความเป็นเอเชีย ด้วยพื้นที่อยู่อาศัยติดคุ้งน้ำซึ่งมีบรรยากาศที่ร่มรื่นไม่เหมือนใคร นอกจากนั้นยังมีการนำเอาพื้นที่สีเขียวเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น หรือการจัดกิจกรรมตลาดนัดในสวน ก็ยิ่งทำให้ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนหรือผู้อยู่อาศัยที่เล็งเห็นความสำคัญของบรรยากาศโดยรองอสังหาฯ ได้มากขึ้นไปอีก
ทั้งหมดนี้ทำให้ทำเลแยกอ่อนนุชและโครงการคอนโดมิเนียม KAWA HAUS กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณค่ามหาศาลสำหรับในแง่ของการลงทุนระยะยาว มีอัตราการปล่อยเช่าได้สูงจากกลุ่มเป้าหมายคนทำงานต่างชาติ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่กำลังมองหาทำเลเข้ามาอยู่อาศัยในทำเลแยกอ่อนนุชมากขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้สูงซึ่งน่าจะมองทำเลแยกอ่อนนุชเป็นที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในราคาที่คุ้มค่าได้เช่นกัน
ซึ่งจะเห็นได้จากคอนโดรุ่นพี่อย่าง kawa HAUS, mori Haus, hasu HAUS, THE BASE Park West Sukhumvit 77, THE BASE Park East Sukhumvit 77, THE BASE Sukhumvit 77, Blocs 77, Park Court Sukhumvit 77 และ Garden Square Sukhumvit 77 ที่มีผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคนที่อ่านจบแล้วสนใจ PLUS ก็มี Promotion สำหรับ Kawa Haus ที่เริ่มเพียง 3.99 ลบ.* พร้อมโปรโมชั่นพิเศษฟรี! ค่าใช้จ่าย ณ วันโอน และ ค่าส่วนกลาง 1 ปี* แล้วให้ Click
บทความที่เกี่ยวข้อง :
-
เจาะลึกชุมชน T77 แหล่งไลฟ์ไตล์ที่ครองใจชาวไทยและต่างชาติในโซนสุขุมวิท
- ชวนสำรวจ 5 คอนโดตระกูล Haus จากแสนสิริ ทางเลือกใหม่ใจกลางกรุง
- พลัสฯ พามาดูคอนโดสุขุมวิทตอนปลาย ใกล้ BTS ในงบไม่เกิน 3 ล้าน
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่