บทความประจำคอลัมน์ Property Key โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
โดยคุณอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ปี 2563 แม้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงต้องทำงานกันอย่างหนักต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่มีปัจจัยรุมเร้าฉุดการเติบโตไม่ให้เป็นไปอย่างที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามภาคผู้ประกอบการหลายท่านก็ได้ออกความเห็นผ่านสื่อไปว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่เป็นจุดต่ำสุดของอสังหาริมทรัพย์
หากผ่านปีนี้ไปได้ก็จะกลับมาสดใสได้ในปี 2564 แต่ถึงแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่สดใส แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยนั้นมีอยู่ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าบางทำเลนั้นยังมีเรียลดีมานด์และสามารถขายได้โดดเด่นกว่าทำเลอื่น
เช่น โซนบางนา - ตราด ทำเล บางพลี บางเสาธง บางบ่อ ที่ช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว มียอดขายบ้านเดี่ยวสูงถึง 88% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของการตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครและบริเวณโดยรอบ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการเองก็ได้ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ด้วยการลดการเปิดโครงการใหม่ลง เน้นระบายโครงการที่กำลังขาย รวมถึงพัฒนาคุณภาพโครงการเพื่อให้ดึงดูดกลุ่มที่มีความต้องการที่แท้จริง
ดังนั้นหากใครที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้ออีกปีหนึ่ง ด้วยปัจจัยบวกดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยต่ำ แม้ว่าปลายปี 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.25% แต่ในปี 2563 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่ฟื้นตัว การส่งออกยังขยายตัวไม่ดีพอ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านก็มีผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น ดังนั้นแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจึงเป็นไปได้สูงมาก ซึ่งหากมองในมุมผู้บริโภค ก็มีส่วนทำให้มีโอกาสกู้เงินซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยต่ำลง
2. ผู้ประกอบการเพิ่มคุณภาพโครงการและจัดโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นสงครามการลดราคาของผู้ประกอบการอย่างที่ผู้ซื้อคาดหวัง แต่ก็มีหลายค่ายที่มีดีลพิเศษที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายมากมาย เช่น ราคาเดียวกันทุกยูนิตทุกมุม ฟรีค่าจดจำนอง รวมทั้งเหล่าผู้ประกอบการก็ได้เน้นการพัฒนาคุณภาพโครงการให้สูงขึ้น จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ซื้อในช่วงนี้สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคาที่ไม่สูง รวมถึงบางกรณีอาจจะสามารถพูดคุยราคาพิเศษได้อีกด้วย
3. มีทำเลศักยภาพใหม่ๆ ตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายให้เลือกมากขึ้น ช่วงปลายปี 2562 ก็มีข่าวดีสำหรับคนกรุงเทพฯ เกี่ยวกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายทั้งสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ซึ่งการเปิดให้บริการนี้ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเพิ่มทำเลศักยภาพสำหรับที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจให้กระจายออกไปตามแนวรถไฟฟ้า เป็นทางเลือกของผู้ซื้อได้มากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลส่วนต่อขยายนั้นก็มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าทำเลใจกลางเมืองอีกด้วย
4. มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ปี 2563 นั้นถือว่ามีปัจจัยบวกจากการลดค่าธรรมเนียมการโอนเกือบตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันมาตรการนี้ครอบคลุมที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่ล่าสุดบรรดาผู้ประกอการและผู้เกี่ยวข้องก็ได้แสดงความเห็นให้ปรับเพดานไปสู่ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท รวมถึงมีการเสนอให้ผ่อนมาตรการ LTV จากที่เริ่มบังคับใช้กับบ้านหลังที่ 2 ด้วยการกำหนดเพดานกู้ไว้ 80% ให้ปรับไปใช้กับบ้านหลังที่ 3 แทน ซึ่งการผ่อนคลายทั้ง 2 มาตรการนี้จะมีผลหรือไม่ยังต้องลุ้นการต่อไป ต่อหากเกิดขึ้นได้จริงก็จะถือว่าเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ต้องจับตามอง
5. มี Smart Home ให้เลือกอย่างหลากหลาย จากข่าวที่เริ่มเห็นกันว่าปี 2563 ประเทศไทยของเราจะก้าวสู่ยุค 5G ซึ่งการมาของ 5G ก็จะนำมาซึ่งนวัตกรรมด้านการสื่อสารที่ล้ำสมัยมากขึ้น ซึ่งน่าจะมีบทบาทในพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ให้เข้าสู่ยุคของ Smart Home อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งล่าสุดเราได้เห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ได้ปล่อยของออกมาอย่างน่าสนใจ ทั้งการเปิดบ้านโชว์เคส การเชื่อมต่อ Google Assistant เข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ทั้งลำโพงที่สามารถสั่งการด้วยเสียงให้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน หลอดไฟอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหว การล้ม วัดการนอน การควบคุมด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Internet of Thing ด้วยการส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุร้ายจากเซนเซอร์มาสู่หน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่สดใส แต่หากเราพิจารณาดูอย่างรอบด้านก็จะเห็นว่ายังมีปัจจัยบวกอยู่บ้างตามที่กล่าวไปในข้างต้น ดังนั้นสำหรับกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีความต้องการซื้ออย่างแท้จริงก็ย่อมได้รับประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้
แต่สิ่งสำคัญคือควรต้องมีการศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่นเรื่องคุณภาพงานก่อสร้าง ต้องมีวัสดุการก่อสร้างที่มีคุณภาพ พัฒนาโดยบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงมีบริการหลังการขายแบบมีอาชีพ ที่จะช่วยดูแลการอยู่อาศัยให้ราบรื่นนับแต่วันแรกที่เข้ามาอาศัยตลอด 24 ชั่วโมง จึงจะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การซื้อที่อยู่อาศัยในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจเลือกที่สมบูรณ์แบบครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่
02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายฝากเช่าได้เลยครับ
หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: ซื้อคอนโด, คอนโดพร้อมอยู่, คอนโดมือสหาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4