Remote Working กับการทำงานยุค 4.0 เชื่อมโยงการเลือกที่อยู่อาศัย

16 ธ.ค. 2019 พลัสทอล์ก


บทความประจำคอลัมน์ Property Insight by PLUS+ ที่ thebangkokinsight.com
โดย คุณสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์  

แนวคิดจัดการ Work-Life Balance ที่กำหนดชั่วโมงทำงานวันละ 8 ชั่วโมง อาจเป็นแนวคิดที่ไม่ทันสมัยไปแล้วกับยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกเชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกัน ให้ผู้คนสามารถเลือกทำงานจากที่บ้านหรือสถานที่ใดก็ได้ที่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรองรับ 

และจากข้อมูล Global Workspace Survey โดย International Workplace Group ระบุว่า บริบทใหม่ของคนทำงานในยุคปัจจุบันคือการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกองค์กรเพื่อสมัครเข้าร่วมทำงาน โดยจะคำนึงถึงปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ให้ความยืดหยุ่นมากกว่าจำนวนวันหยุด 

ส่วนองค์กรที่ขาดนโยบายด้านความยืดหยุ่นมีแนวโน้มสูงที่จะสูญเสียพนักงานที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าองค์กรที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ส่งผลให้แนวคิดการทำงานจากที่ใดก็ได้ หรือ Remote Working จึงกำลังจะเข้ามาแทนที่ เพราะเทคโนโลยีที่เอื้อให้เกิดการประชุม การส่งงาน หรือการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ร่วมกันได้โดยไม่จำเป็นต้องนั่งประจำที่ออฟฟิศอีกต่อไป 

ซึ่งการทำงานแบบ Remote Working นี้ไม่ได้แพร่หลายเพียงแค่ในกลุ่มสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่องค์กรใหญ่ๆ ที่เป็นองค์กรระดับประเทศ เช่น Google และ Amazon ก็มีนโยบายสร้างความยืดหยุ่นนี้ภายในองค์กร โดยเริ่มจาก Flexible Hour ที่อนุญาตให้พนักงานบริหารเวลาการเข้าทำงานของตัวเอง หรือ Flexible Office นั่นคือการไม่มีโต๊ะประจำให้พนักงาน ทุกคนสามารถนั่งทำงานได้ทุกที่ในออฟฟิศ 

ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่ของบ้านเราอย่างไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) และแสนสิริก็มีนโยบาย Flexible Working Time และ Work Anywhere Anytime ด้วยเช่นกัน

จากเทรนด์ดังกล่าว ส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ? 


ห้องฟิตเนส สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางจาก ทากะ เฮาส์

ธุรกิจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยเองก็ต้องมีการปรับตัวเช่นกัน เพราะโครงการที่อยู่อาศัยจะไม่ใช่เพียงสำหรับการพักอาศัยเท่านั้น แต่ควรจะต้องมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปดังกล่าว เช่น ห้อง Co-working Space ที่สามารถนั่งทำงานและมี WiFi รองรับการประชุมแบบทางไกล รวมถึงการหาพันธมิตรเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น ด้านการจัดส่งเอกสารหรือพัสดุ หรือการมี Smart Locker เป็นต้น

นอกจากนี้ Remote Working ยังทำให้คนมีเวลาใช้ชีวิตนอกสถานที่ทำงานมากยิ่งขึ้น ได้จัดสรรทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการทำงานตามไลฟ์สไตล์ความชอบส่วนตัว เช่น การออกกำลังกาย การทำงานศิลปะ ดังนั้นหากโครงการที่อยู่อาศัยมีการออกแบบที่รองรับสิ่งเหล่านี้ ก็จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งนอกจากการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่เหมาะสมแล้ว การบริหารจัดการโครงการและดูแลการใช้ชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ย่อมต้องมีบุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแลจัดการให้อยู่ในสภาพดี สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมรองรับการใช้งานของทุกๆ คน 


Smart Locker ที่ลูกบ้านสามารถตั้งรหัส รับ-ส่ง ของได้เองที่ ทากะ เฮาส์  

เช่น จัดสรรการจองห้องอเนกประสงค์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมพิเศษที่ช่วยสนับสนุนด้านความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เช่น การจัดกิจกรรม workshop งานศิลปะ การจัดงานเสวนาเชิงสร้างสรรค์แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งที่ออกแบบแนวคิดให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจน

ส่วนข้อดีของ Remote Working ในด้านของการอยู่อาศัยนั้น ถือว่ามีส่วนในการปลดล็อคการเลือกซื้อโครงการที่อยู่อาศัยที่ชื่นชอบได้อย่างแท้จริง โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่ใกล้ที่ทำงานอีกต่อไป โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผังเมืองใหม่ของกรุงเทพมหานครได้กระจายศูนย์ความเจริญไปสู่ชานเมืองตามจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้ามากขึ้น 

จึงทำให้เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกระจายออกไปสู่ชานเมือง ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากขึ้น ที่สำคัญราคาที่ดินย่านชานเมืองยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับราคาที่ดินย่านใจกลางธุรกิจ จึงทำให้ที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองอยู่ในราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

เมื่อสามารถเลือกพักอาศัยและได้ทำงานในบรรยากาศที่ตนเองสามารถกำหนดได้ ก็จะทำให้เกิดการสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพและดึงศักยภาพของตนเองออกมาได้มากที่สุด แนวคิดนี้จึงส่งผลดีทั้งต่อองค์กรและต่อพนักงาน เพราะการทำงานแบบอิสระนั้นย่อมช่วยให้ฉีกกรอบความคิดเดิมๆ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 

ส่วนองค์กรเองก็สามารถจ้างคนเก่งได้จากทุกที่ โดยตัดปัญหาด้านสถานที่ออกไปนั่นเอง ซึ่งก็นับเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจค่ะ

หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่คอนโดกรุงเทพคอนโดให้เช่าคอนโดมือสองคอนโดใกล้รถไฟฟ้าคอนโดสุขุมวิท  

บทความที่เกี่ยวข้อง:

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ให้คำปรึกษาฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน บริหารโครงการที่พักอาศัย/โครงการเพื่อการพาณิชย์ บริหารงานขายและการตลาดโครงการ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ กับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ

ติดต่อ PLUS PROPERTY

เรื่องเด่นน่าสนใจ

Free E-book

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

5 เทคนิคหาเช่าคอนโดให้สบายใจก่อนแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่

ปัจจุบันการหาที่พักอาศัยในเมืองสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภท คอนโดมิเนียม กำลังเป็นที่นิยมกันมาก แต่สำหรับคนที่ยังตัดสินใจซื้อไม่ได้ ย้ายที่ทำงานบ่อย หรือมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัย คู่มือการหาเช่าคอนโดเล่มนี้จากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบเสมือนเป็นไกด์นำทาง และจะมาบอกเทคนิคดีๆ ไว้ให้คุณหาเช่าคอนโดให้สบายใจตอบโจทย์ทุกความต้องการ