บริจาคเงิน ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า อิ่มใจ ได้บุญ ปี 2562
เงินบริจาคลดหย่อนภาษี 2 เท่า อิ่มใจได้บุญ
ช่วงใกล้จะสิ้นปีแบบนี้ หลายคนก็คงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วใช่ไหมครับว่า ปีนี้เราจะต้องเตรียมตัวเสียภาษีเท่าไหร่ดี? แล้วเราจะสามารถใช้สิทธิอะไรเพื่อลดหย่อนภาษีได้อีกบ้าง จะดีมั้ย ถ้าเราสามารถเลือกใช้สิทธิเงินบริจาคในการลดหย่อนภาษีที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้ไปพร้อมๆ กันซึ่งสิทธิในการลดหย่อนภาษีประเภทนี้ก็คือ "ค่าลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาค" เช่น บริจาคเงินลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยสนับสนุนด้านการศึกษา ด้านการกีฬา โรงพยาบาล การสนับสนุนโครงการวิจัยเพื่อสังคม หรือช่วยเหลือองค์กรการกุศล ฯลฯ เรียกได้ว่าการใช้สิทธินี้ นอกจากตอบโจทย์คนที่วางแผนภาษีได้แล้ว ยังมอบความอิ่มเอมใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไปจนถึงคนที่รักการทำบุญทำทานได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ
ค่าลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาค สิทธิเพื่อหมุนเงินทุนสู่การพัฒนาสังคม
วิธีบริจาคลดหย่อนภาษีนี้ถือเป็นทางเลือกของการใช้สิทธิสำหรับลดหย่อนภาษีที่ดีต่อใจ แถมยังได้ความสบายใจจากการช่วยเหลือผู้อื่นกลับมาอีกต่างหาก แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจก่อนก็คือ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคในปี 2561 นี้ จะใช้วิธีคำนวณที่แตกต่างจากการการใช้สิทธิประเภทอื่นๆ โดยจะได้สิทธิหักได้สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้สุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีทั้งหมด โดยการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคจะสามารถแบ่งประเภทได้หลากหลาย ซึ่งแต่ละประเภทก็จะได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกันไป ซึ่งทุกคนควรเลือกทำความเข้าใจให้ชัดเจนถึงสิทธิที่จะได้รับ ก่อนที่จะตัดสินใจวางแผนใช้สิทธิค่าลดหย่อนภาษีจากการบริจาค
ภาพจากโครงการ บ้านแสนธรรมดา
1. เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา
สำหรับคนที่อยากจะมอบเงินบริจาคเพื่อยกระดับการศึกษาของประเทศนั้น ก่อนจะดำเนินการใช้สิทธิแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบรายชื่อของสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดเอาไว้ก่อนว่ารองรับหรือไม่ด้วยการคลิกเข้าไปสืบค้นได้ที่นี่ซึ่งเงินบริจาคเพื่อการศึกษาประเภทนี้เราจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนที่ทุกคนจ่ายจริงไป แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอย่างอื่นก่อนหักลดหย่อนเงินบริจาคนะครับ เช่น หากเราบริจาคเงินให้สถานศึกษาไปจำนวน 5,000 บาท ก็จะสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า คือ 10,000 บาทเลยทีเดียว
2. เงินบริจาคให้แก่สถานพยาบาลของรัฐ
สังคมไทยยิ่งนานวันก็ยิ่งกลายเป็นสังคมสำหรับผู้สูงอายุเข้าไปทุกที ดังนั้นคนที่อยากสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพของผู้คนในสังคมให้ดี ทางรัฐบาลได้มอบสิทธิให้เงินบริจาคประเภทนี้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคให้กับสถานพยาบาลของรัฐเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้เมื่อรวมกับเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาในข้อ 1. แล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่นๆ3. เงินบริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรม 4 กองทุน
การบริจาคลดหย่อนภาษีประเภทนี้คือการมอบเงินบริจาคเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ กองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และกองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข โดยผู้ที่บริจาคเข้ากองทุนใดใน 4 รายชื่อนี้ ก่อนถึงระยะเวลา 31 ธันวาคม 2562 ก็สามารถนำเงินบริจาคมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยที่รวมกับการบริจาคด้านการศึกษาต้องไม่เกิน 10% ของเงินบริจาคเช่นกันแต่อย่างไรก็ดี มีข้อควรทราบเอาไว้เพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า กรณีที่บริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรมนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป จะสามารถหักลดหย่อนได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคเท่านั้น (เทียบกับปี 2561 – 2562 ที่จะได้สิทธิหักลดหย่อนได้ 2 เท่า) โดยรวมกับเงินบริจาคอื่น ๆ แล้ว ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่นๆ ดังนั้นถ้าใครอยากจะใช้สิทธิลดหย่อนประเภทนี้ นี่คือช่วงเวลาที่คุ้มค่าและเหมาะสมแล้ว
4. เงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ
ยังมีองค์กรและกองทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ อีกมาก ให้ได้เลือกบริจาคได้ตามต้องการ โดยการบริจาคที่อยู่ในประเภทนี้จะได้รับสิทธิในการยื่นลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เหมือนกับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาเช่นกัน โดยสามารถเลือกบริจาคได้ตามรายนามดังต่อไปนี้- เงินบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์
- เงินบริจาคในการจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่าน
- เงินบริจาคในการจัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์
- เงินบริจาคให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการกีฬา
- เงินบริจาคเข้ากองทุนยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี
การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย การถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และการให้ความรู้ทางกฏหมายแก่ประชาชน เพื่อสงเคราะห์ผู้เดือดร้อน ยากไร้ ด้อยโอกาสให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม- เงินบริจาคให้โครงการฝึกอบรมอาชีพ
และการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู สงเคราะห์เด็กและเยาวชนของสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ตัวอย่างเช่น มูลนิธิเสริมกล้า โครงการบ้านแสนธรรมดา
หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: ซื้อคอนโด เช่าคอนโด คอนโดติดรถไฟฟ้า, นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4