5 คอนโดใหม่ติดแนวรถไฟฟ้า ทำเลดี น่าลงทุน ปี 2020
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมหรือคอนโดใหม่ยังมีความน่าสนใจ ด้วยผลตอบแทนการลงทุนที่ยังดีมากกว่าการฝากธนาคารเพื่อหวังดอกเบี้ย ไม่ว่าจะลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่า หรือรีเซล อีกทั้งยังมีโอกาสได้กำไรจากส่วนต่างหรือ Capital Gain เมื่อขายต่อด้วย
รูปแบบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยม คือ การลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมทั้งใหม่และเก่าในปี 2020 มีทั้งการลงทุนระยะสั้น ที่เป็นลักษณะการซื้อขายใบจองก่อนโอนฯ และการลงทุนระยะยาว ที่ซื้อเก็บไว้เพื่อโอนฯ และปล่อยเช่า รอเวลาให้ราคาอัพขึ้นมาสักหน่อยก็ค่อยขายต่อ โดยการรูปแบบการลงทุนก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน
การลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อหวังปล่อยเช่าหรือขายต่อ ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆ เริ่มลดน้อยลง ทำให้โครงการคอนโดใหม่ที่เปิดขายในทำเลติดใกล้รถไฟฟ้าปัจจุบันมี Value มากขึ้นในอนาคต
ลงทุนคอนโดทั้งใหม่และเก่าโลเคชั่นสำคัญมากในปี 2020
สำหรับการลงทุนคอนโดปัจจัยหลักที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งของคอนโดต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีจุดเด่น เพื่อจะได้ง่ายต่อการลงทุนทั้งเรื่องปล่อยเช่าและขายต่อ มีโอกาสได้ Capital Gain ในอัตราสูง ทำเลที่เหมาะสำหรับการลงทุนต้องเป็นทำเลที่สามารถเดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ หรือถ้าอยู่ในถนนรองก็ต้องเดินทางง่าย
ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคอนโดใหม่และเก่าทำเลต้องใกล้รถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทั้งโรงเรียน, โรงพยาบาล, สถานศึกษา, ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งถ้ามีครบทั้งหมดที่ว่ามานี้ การลงทุนคอนโดฯ มีแต่กำไรแน่นอน จะปล่อยเช่าก็ง่าย จะขายต่อก็ได้ราคาดี
วิเคราะห์อนาคตคร่าวๆ รู้เรื่องราวก่อน
สำหรับการซื้อคอนโดใหม่ น่าลงทุน ปี 2020 อีกหนึ่งปัจจัยของการเลือกทำเล นอกจากดูสภาพปัจจุบันแล้ว การวิเคราะห์ความเจริญเติบโตในอนาคตก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และช่วยคำนวนระยะเวลาในการถือครองว่าช่วงไหนควรเก็บปล่อยเช่า หรือปล่อยขายตอนไหนสำหรับคอนโดใหม่ บางโครงการหากถือครองในระยะยาว โอกาสในการทำกำไรก็จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
บางทำเลศักยภาพยังไปต่อได้ นั่นหมายความว่า ปัจจุบันทำเลมีศักยภาพอยู่แล้ว เช่น ใกล้รถไฟฟ้า ในอนาคตก็อาจจะมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีก เช่น มีรถไฟฟ้าสร้างเพิ่มอีกสาย กลายเป็นอินเตอร์เชนจ์ หรือมีโครงการสร้างเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มเติม ทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมให้ Value ของคอนโดมิเนียมที่เราเลือกลงทุนน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
ฉะนั้นหากมองเห็นภาพคร่าวๆ ของทำเลที่เราจะเลือกลงทุนว่าอนาคตมีความเปลี่ยนแปลง และมีการพัฒนาที่ดินรอบๆ อย่างไรบ้าง แน่นอนว่าการลงทุนเลือกทำเลและเลือกโครงการก็ย่อมได้เปรียบ
Mass Transit ในเขตกรุงเทพฯ
พื้นที่เขตกรุงเทพมหานครปัจจุบันมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการหลักๆ 3 เส้นทาง ได้แก่
1. รถไฟฟ้า BTS
เปิดให้บริการเมื่อปี 2542 ซึ่งใกล้จะครบรอบ 20ปีบีทีเอสในเดือนธันวาคมปี 62 นี้แล้ว BTS เป็นรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย แบ่งเป็น 2 สายย่อยคือ สายสุขุมวิทและสีลม เส้นทางจะวิ่งผ่านย่านใจกลางเมืองตามแนวถนนหลักๆ เช่น พญาไท, สุขุมวิท, ราชดำริ, สาทร เป็นต้น โดยมีจุดอินเตอร์เชนจ์กันที่สถานีสยาม ซึ่งกลายเป็นสถานีหลักของรถไฟฟ้ากรุงเทพฯการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้า BTS สร้างความเปลี่ยนแปลงของภาพรวมการคมนาคมขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ ไปโดยปริยาย นอกจากประชาชนได้การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าและใกล้สถานีอีกด้วย ทั้ง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียม
ปัจจุบันสายสุขุมวิทวิ่งไปสุดทางถึงสถานีเคหะฯ เชื่อมจังหวัดสมุทรปราการเป็นทีเรียบร้อยแล้ว และภายในเดือนธันวาคมปี 2562 จากสถานีหมอชิตจะเปิดให้บริการจนถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพิ่มความสะดวกและเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีพหลโยธินอีกด้วย
2. รถไฟฟ้า MRT
หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน เปิดให้บริการเมื่อปี 2547 เป็นรถไฟฟ้าสายที่ 2 ของประเทศไทยวิ่งตามแนวถนนรัชดาภิเษก, พระราม 4 และผ่านจุดสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ เช่น แยกพระราม 9, แยกอโศก และห้าแยกลาดพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้การเปิดบริการของ MRT ยังช่วยเติมเต็มการคมนาคมของกรุงเทพฯ และช่วยเพิ่มศักยภาพของบางทำเลให้มากขึ้นไปอีกเช่น บริเวณจุดตัดหรืออินเตอร์เชนจ์ของสถานี BTS และ MRT ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แห่ง คือ หมอชิต/จตุจักร, อโศก/สุขุมวิท และ ศาลาแดง/สีลม ซึ่งทั้ง 3 สถานีที่เป็นอินเตอร์เชนจ์ก็จะมีความผู้โดยสารหนาแน่นกว่าทุกๆ สถานีเพราะจะมีการใช้บริการขึ้น-ลงมากกว่าสถานีอื่น
ล่าสุดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการช่วงสถานีหัวลำโพงจนถึงสถานีหลักสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นการเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ช่วงเตาปูน-ท่าพระ จะเริ่มทดสอบเดินรถเสมือนจริงเดือน ม.ค.2563 และเปิดให้บริการจริงเดือน มี.ค.2563
3. รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง
เปิดให้บริการเมื่อปี 2559 เป็นรถไฟฟ้าสายที่ 3 ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT เส้นทางปัจจุบันบริิเวณสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นการขนส่งคนจากโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก เข้าสู่ย่านใจกลางเมืองอย่าง รัชดา, สุขุมวิท และสีลม ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมสร้างส่วนต่อขยายสายสีม่วงใต้ เตาปูน- ราษฎร์บูรณะ-
อนาคตสถานีอินเตอร์เชนจ์ กับทำเลศักยภาพของคนกรุง
-
เจาะลึกคอนโดประเภท Rare Items ใน Prime Area
-
Bangkok X Tokyo จุดตัดรถไฟฟ้าเมืองกรุงก็คล้ายๆ โตเกียว
อัพเดทรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้
นอกจากเส้นทางรถไฟฟ้าที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ปัจจุบันกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าอีกหลายเส้นทาง ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดทำเลใหม่ๆ ในการลงทุนคอนโดมิเนียมอีกหลายทำเล ได้แก่
- รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เส้นทางตามแนวถนนพหลโยธิน จากสถานีหมอชิตที่เปิดให้บริการอยู่ตอนนี้วิ่งตรงยาวออกไปพื้นที่นอกเมืองย่านสะพานใหม่-คูคต-ลำลูกกา ซึ่งเส้นทางนี้ปัจจุบันได้เปิดให้บริการถึงสถานีห้าแยกลาดพร้าว และจะเริ่มเปิดให้บริการถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในช่วงปลายปี 62 ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีการเดินทางของผู้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ โซนเหนือ ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ตามทางขึ้น-สถานีเป็นจำนวนมาก เช่น แยกรัชโยธิน-เสนา, สะพานใหม่
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค เปิดให้บริการถึงสถานีหลักสองเรียบร้อยแล้ว และสถานีเตาปูน-ท่าพระ มีกำหนดจะเปิดให้บริการเดือนมีนาคมปี 2563
- รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2563
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีกำหนดจะเปิดให้บริการปี 2564
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) มีกำหนดจะเปิดให้บริการปี 2564
- รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) มีกำหนดจะเปิดให้บริการปี 2566
สำหรับการขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าสายต่างๆ จะส่งผลให้เกิดการเติบโตและขยายตัวของเมือง ซึ่งต่อไปจะไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะในเขตพื้นที่ใจกลางเมืองเท่านั้น แต่จะกระจายตามพื้นที่เมืองชั้นกลาง และรอบนอกด้วยเช่นกัน ตามเส้นทางของรถไฟฟ้าที่ไปถึง ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางให้สามารถเข้ามาสู่ย่านใจกลางเมืองได้สะดวก
คอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้า น่าลงทุน ราคาพุ่งปี 2020
ทำเลใกล้รถไฟฟ้ามีการปรับตัวของราคาขายมากกว่าทำเลอื่นๆ โดยเฉพาะทำเลที่เป็น Rare Items (หายาก และไม่มีโครงการเปิดใหม่) เช่น ชิดลม, เพลินจิต, ทองหล่อ ซึ่งนอกเหนือจากเป็นทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าแล้วยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตอื่นๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงการบริหารอาคารชุดด้วยมืออาชีพ ที่จะทำให้สภาพของโครงการน่าอยู่อาศัยไม่ต่างจากโครงการเปิดใหม่อื่นๆ
- สีลม-สาทร ปัจจุบันราคารีเซล 210,000 บาท/ตารางเมตร และมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 7% ต่อปี ส่วนอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 700-1,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน ผลตอบแทนการเช่า 5% ต่อปี
-
พหลโยธิน-ลาดพร้าว ทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว ปัจจุบันราคาเฉลี่ย 150,000 บาท/ตารางเมตร ราคารีเซลย้อนหลัง 5 ปี ปรับเพิ่ม 20-40% ส่วนอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 520-542 บาท/ตารางเมตร/เดือน ผลตอบแทนปล่อยเช่า 5% ต่อปี
โครงการที่น่าสนใจ: เดอะ ไลน์ จตุจักร หมอชิต - พระโขนง-อ่อนนุช ราคาเฉลี่ยปัจจุบัน 122,000 บาท/ตารางเมตร ผลตอบแทนการขายต่อ 40% (ในช่วง 5 ปีที่ผ่าน) ส่วนอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 500-600 บาท/ตารางเมตร/เดือน ผลตอบแทนปล่อยเช่า 5-7% ต่อปี
ทำเลนี้มี Case Study ที่น่าสนใจ เพราะเมื่อครั้งที่สถานีอ่อนนุชเป็นสถานีปลายทางของรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว โครงการคอนโดมิเนียมในขณะนั้นราคาเปิดขายยังเกาะกลุ่มไม่สูงมากนัก (เริ่มต้นที่ 68,000 บาท/ตร.ม.) แต่เมื่อส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่งเปิดให้บริการเมื่อปี (2554) ส่งผลมายังราคาในปัจจุบันนี้ (2562) เติบโตขึ้นเป็น 122,000 บาท/ตร.ม. ผู้ที่มองเห็นอนาคตจึงได้เปรียบเพราะได้ซื้อในราคาถูกและขายต่อได้กำไรสูง
โครงการคอนโดใหม่ที่น่าสนใจปี 2020: เดอะ เบส พาร์ค อีสต์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71
-
วงศ์สว่าง
รอบๆ ตัวสถานีวงศ์สว่างราคาขายเฉลี่ย 90,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายปรับเพิ่มขึ้นทุกปีเนื่องจากราคาที่ดินปรับเพิ่มปีละ 6% ต่อปี
อัตราค่าเช่า 10,000-13,000 บาท/เดือน หรือผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 5-6% ต่อปี
โครงการคอนโดใหม่ ปี 2020ที่น่าสนใจ: เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง
-
เพชรเกษม
ทำเลใกล้รถไฟฟ้าราคาขายเฉลี่ย 92,000 บาท/ตารางเมตร
อัตราค่าเช่า 10,000-12,000 บาท/เดือน
โครงการคอนโดใหม่ ปี 2020 ที่น่าสนใจ: เดอะ เบส เพชรเกษม

ราคาที่ดิน สัญญาณบอกราคา คอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้า ปี 2020
การประเมินราคาที่ดินเป็นอีกแหล่งข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมถึงการประเมินศักยภาพของแต่ละทำเลที่จะเลือกลงทุนได้ด้วย โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ศักยภาพของทำเลและศักยภาพของโครงการคอนโดใหม่ในอนาคตเพื่อประกอบการตัดสินใจ ล่าสุดจากผลสำรวจราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าโดย เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) ได้เปิดเผยราคาที่ดินสูงสุด-ต่ำสุดของสถานีหลักต่างๆ ดังนี้
-
BTS หมอชิต-อ่อนนุช
ราคาสูงสุด สถานีสยาม/เพลินจิต/ชิดลม 2.2 ล้านบาท/ตร.ว. ราคาต่ำสุด สถานีสะพานควาย 6.5 แสน/ตร.ว. -
BTS อ่อนนุช-แบริ่ง
ราคาสูงสุด สถานีอ่อนนุช 8แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีแบริ่ง 3.5 แสน/ตร.ว. -
BTS แบริ่ง – สมุทรปราการ
ราคาสูงสุด สถานีสำโรง 3.5 แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีเคหะสมุทรปราการ 1.1 แสน/ตร.ว. -
BTS ตากสิน – บางหว้า
ราคาสูงสุด สถานีกรุงธนบุรี 7 แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีบางหว้า 2 แสน/ตร.ว. -
BTS อ่อนนุช-แบริ่ง
ราคาสูงสุด สถานีอ่อนนุช 8แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีแบริ่ง 3.5 แสน/ตร.ว. -
BTS หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
ราคาสูงสุด สถานีห้าแยกลาดพร้าว 5 แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีคูคต 6.5 หมื่น/ตร.ว. -
MRT บางซื่อ – หัวลำโพง
ราคาสูงสุด สถานีสุขุมวิท(อโศก) 2 ล้าน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีบางซื่อ 3 แสน/ตร.ว. -
สายสีม่วง บางซื่อ – บางใหญ่
ราคาสูงสุด สถานีเตาปูน 3 แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีคลองบางไผ่ 1 แสน/ตร.ว. -
สายสีแดง บางซื่อ – ตลิ่งชัน
ราคาสูงสุด สถานีบางซ่อน 1.4 แสน/ตร.ว. ต่ำสุด สถานีบางบำหรุ 6 หมื่น/ตร.ว.
ภาพจากโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดใหม่ ปี 2020 ควรเลือกลงทุนคอนโดในทำเลที่มีศักยภาพทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีก ถือเป็นเรื่องได้เปรียบ เพราะการอยู่อาศัยในคอนโดทำเลใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ถือว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัย ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งจากการปล่อยเช่าและขายต่อก็จะได้กำไรดี
ซึ่งการซื้อคอนโดไว้ลงทุนอาจไม่จำกัดเฉพาะเป็นโครงการใหม่เท่านั้น ยังสามารถมองหาโครงการรีเซลหรือโครงการมือสองที่มักจะมีราคาดีมาเปลี่ยนมือได้ หากหาจังหวะได้ลงตัว หรือให้ผู้เชี่ยวชาญตัวแทนอสังหาฯ เป็นผู้แนะนำ ก็สามารถช่วยให้เราได้คอนโดน่าลงทุนทำเลดี มีศักยภาพมาอยู่ในพอร์ตเราก็ได้ครับ
หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: ซื้อคอนโด เช่าคอนโด คอนโดติดรถไฟฟ้า, นิติบุคคลคอนโด, นิติบุคคลอาคารชุด, คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, bangkok condo for rent, คอนโดพระราม 4
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายฝากเช่าได้เลยครับ