รีวิวอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน สำรวจย่านจตุจักร – หมอชิต
จตุจักร - หมอชิต เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์มาก เหมาะสำหรับการลงทุนอสังหาฯ เนื่องจากมี คอนโดจตุจักร อยู่หลายโครงการ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คนจำนวนมาก และเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ทุกเพศทุกวัย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งแหล่ง Shopping Center ขนาดใหญ่, ใกล้แหล่งงาน, ตลาดสด, ตลาดนัด, สวนสาธารณะ และโรงเรียน อาทิ ตลาด อ.ต.ก. ตลาดสดต้นแบบเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติว่าเป็นตลาดสดที่มีคุณภาพ สะอาด นำผลผลิตจากเกษตรกรไทยที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งล่าสุด สำนักข่าว “CNN” ก็ยังได้ยกให้ตลาด อ.ต.ก. เป็นตลาดสดที่ดีที่สุด เป็นอันดับ 4 ของโลก นอกจากนี้ด้วยการจัดตลาดที่สว่างไสวก็ยังทำให้เดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน ขณะที่นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะชิมอาหารไทยกันชิล ๆ ได้ในฟู้ดคอร์ทอีกด้วย
อีกทั้งยังมีคอนโดให้เลือกพักใกล้กับ ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดสุดสัปดาห์ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพ ที่มีร้านค้ากว่า 10,000 ร้านค้า ซึ่งแต่ละโครงการมีประเภทสินค้าสำหรับจำหน่ายแตกต่างกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ และที่สำคัญมี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 3 แห่ง รวมกว่าหลายร้อยไร่ ไม่ว่าจะเป็นสวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนรถไฟ ซึ่งถือเป็นปอดของคนที่พักอยู่คอนโดแถวจตุจักร และเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งในย่านนี้
รถไฟฟ้า BTS ปัจจัยสำคัญในการลงทุนอสังหาฯ
นอกจากนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำเลพหลโยธินมีจุดเด่นที่สำคัญ คือการเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางราง ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลาหลายปี ช่วยขนส่งคนจากนอกตัวเมืองเข้าสู่ย่านธุรกิจได้ในระยะเวลาไม่นาน
จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิตรวมทั้งปีอยู่ที่ 14,577,047 คน ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 คิดเป็นสัดส่วน 6% เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้โดยสารในสถานีอื่นๆรวม 34 สถานี โดยเป็นรองจากสถานีสยาม, สถานีอโศก และสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ด้านจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินตลอดทั้งปีอยู่ที่ 6,595,485 คน ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 คิดเป็นสัดส่วน 7% เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้โดยสารในสถานีอื่นๆรวม 18 สถานี โดยเป็นรองจากสถานีสุขุมวิท, สถานีพระราม 9 และสถานีสีลม
สำหรับแนวโน้มการพัฒนา ‘สถานีกลางบางซื่อ’ หรือ ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน’ เพื่อยกระดับให้ทำเลนี้เป็น Hub ด้านการเปลี่ยนถ่ายระบบคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าการก่อสร้างแล้วกว่า 52% และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563 ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการลงทุนอสังหาฯ ให้แก่ทำเล และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ, ขาย หรือเช่า คอนโดแถวจตุจักรเพิ่มมากขึ้น
รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเปิดใช้อยู่ในปัจจุบัน และมีการพัฒนาส่วนต่อขยายเพิ่มเติม ได้แก่ สถานีแบริ่ง-สมุทรปราการ (ความคืบหน้าการก่อสร้าง 72%) และสถานีหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (ความคืบหน้าการก่อสร้าง 2%)


- รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ-ท่าพระ (ความคืบหน้าการก่อสร้าง 70%) และสถานีหัวลำโพง-บางแค (ความคืบหน้าการก่อสร้าง 70%) ซึ่งถือเป็นสายหลักในการดึงผู้คนจำนวนมากเข้าสู่เมือง และกระจายออกนอกเมืองไปทางจรัญสนิทวงศ์ บางแค

รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเปิดใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนและสถานีบางซื่อจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2560 ตามแผนงานของรัฐ รถไฟฟ้าสายนี้จะช่วยดึงผู้คนจากจังหวัดนนทบุรีเข้าสู่ใจกลางเมือง รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางซื่อ-รังสิต (ความคืบหน้าการก่อสร้าง 50%) สายสีแดงเข้ม สถานีรังสิต-มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง)สายสีแดงอ่อน สถานีบางซื่อ-หัวหมาก (เริ่มก่อสร้างกุมภาพันธ์ 2560) สถานีบางซื่อ-ตลิ่งชัน (สร้างเสร็จแล้ว คาดว่าเปิดใช้งานโดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงได้ในปี 2561) รถไฟฟ้าสายสีแดงที่เชื่อมแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีดอนเมือง-พญาไท (ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง) ซึ่งกลุ่มรถไฟฟ้าสายสีแดงจะช่วยดึงผู้คนจากทั้งฝั่งเหนือ ฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ อีกทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์จากสนามบินดอนเมือง ให้เข้าสู่ตัวเมืองได้

วิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ และผลตอบแทนย่าน “จตุจักร - หมอชิต - พหลโยธิน - ลาดพร้าว”
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคารสูงโซนพหลโยธิน – ลาดพร้าว ในระยะรถไฟฟ้าเปิดตัวในระดับราคา 120,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นโซนใกล้เคียงย่านจตุจักร-หมอชิต และในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 พบอัตราการตอบรับในระดับสูงเฉลี่ยที่ 84% จากอุปทานเสนอขายสะสมทุกโครงการ 4,616 ยูนิต อัตราดูดซับเฉลี่ย 153.1 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมอาคารสูงปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2559 มาอยู่ที่ 150,000 บาทต่อตารางเมตร และปัจจุบันโครงการเหล่านี้ได้มีการนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ (Resale) และได้ปรับราคาให้สูงขึ้นกว่าราคาเสนอขายปัจจุบันแล้ว 10% มาอยู่ที่ 165,000 บาทต่อตารางเมตร
ที่สำคัญย่านนี้ไม่ได้มีเฉพาะผู้ที่ซื้ออยู่อาศัยจริงเท่านั้น แต่ก็เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เช่า โดยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ซึ่งห้องที่ได้รับความนิยมคือ 1 ห้องนอน โดยห้องขนาด 30-40 ตารางเมตร มีค่าเช่าต่อเดือนที่ 15,000 - 23,000 บาท/เดือน เฉลี่ย 520 บาท/ตร.ม. ส่วนแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60-70 ตารางเมตร ปัจจุบันมีค่าเช่าต่อเดือนที่ 32,000-38,000 บาทต่อยูนิต เฉลี่ย 542 บาท/ตร.ม. โดยในย่านนี้มีอัตราการอยู่อาศัยหนาแน่นสูงถึง 90 - 95% โดยเป็นผู้อยู่อาศัยเอง 65% และผู้เช่า 25%
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดที่อยู่ใจกลางกรุง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้จังหวะชีวิตคุณสุดได้ไม่สะดุด สามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อค้นหายูนิตฝากขายได้เลยครับ