ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นชาวกรุงเทพฯ ก็ต้องเคยได้ยินได้รู้จัก หรือกระทั่งเคยเดินทางไปยังศูนย์กลางการเดินทางของเมืองหลวงที่ชื่อว่า “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” กันซักครั้งในชีวิตแน่ๆ

ด้วยการที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งสาธารณะที่รวมเอาไว้ทั้งรถประจำทาง รถไฟฟ้า BTS มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมไปถึงรถตู้ ทั้งยังเป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วน ทำให้ย่านอนุเสาวรีย์แห่งนี้เป็นฮับแห่งการเดินทางของเมืองกรุงอย่างแท้จริง แต่ทราบกันหรือเปล่าว่า ใกล้ๆ ย่านอนุสาวรีย์ฯ อันคับคั่ง เพียงไม่กี่กิโลเมตรแต่กลับเป็นพื้นที่อันเต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ต่างๆ ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่หลากหลาย ร้านอาหารระดับยอดเยี่ยมที่ซ่อนตัวอยู่ นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้ชิดกับโรงพยาบาลมากมาย พื้นที่แห่งนี้ก็คือย่าน “สนามเป้า”

“สนามเป้า” มีดีอย่างไร? ทำไมมันถึงกลายเป็นหนึ่งในทำเลที่เปี่ยมศักยภาพในการเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ชีวิตได้ขนาดนี้ ครั้งนี้เราจะมาลงพื้นที่เจาะสำรวจสนามเป้ากันอย่างทะลุปรุโปร่งกันครับ

“สนามเป้า” ถึงจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่ให้ความเป็นส่วนตัวเกินคาด

ถึงจะบอกว่าทำเลย่านสนามเป้าจะตั้งอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ฯ ไม่มาก แต่อยากจะบอกให้ทุกท่านทราบว่าการอยู่อาศัยในโซนนี้นั้นให้ความสงบและมีความเป็นส่วนตัวกว่าที่ใครคาดคิด แม้ว่าช่วงกลางวันในวันทำงาน สนามเป้าจะเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในการที่ผู้คนจากฝั่งลาดพร้าวและวิภาวดีรังสิตใช้ในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง แต่เมื่อผ่านช่วงเวลาเร่งด่วนไป สนามเป้าก็จะกลายเป็นแหล่งรวมตัวของอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเมื่อเดินทางต่อไปยังโซนอารีย์ซึ่งติดกันเราก็จะพบกับภาพของชาวออฟฟิศที่มักจะออกมาหามื้อกลางวันทานกันท่ามกลางร้านค้ามากมาย

ส่งผลให้ผู้คนที่ใช้ชีวิตในย่านสถานีสนามเป้านี้ได้สัมผัสบรรยากาศของความคึกคักในช่วงกลางวันของวันธรรมดา แต่เมื่อเป็นช่วงเวลาปกติหรือวันหยุด ย่านสนามเป้าก็จะกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยทั้งจากผู้คนในชุมชนแถบนี้ที่ไม่พลุกพล่านมากจนเกินไป อีกทั้งยังมีร้านค้าและคาเฟ่ให้เราได้ใช้เวลาว่างเพื่อพักผ่อนอย่างสงบอีกด้วย

ชวนเดินสำรวจ ค้นหาไลฟ์สไตล์ย่าน “สนามเป้า”

เมื่อเราเริ่มต้นออกเดินทางมาจากสถานี BTS สนามเป้า ลงที่ประตูทางออกที่ 1 ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบอกช่อง 5 เราก็จะพบกับโรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในแหล่งรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากมาย และถือเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของผู้ที่มาเยือนสนามเป้าเลยทีเดียว

สำหรับอาคารถัดไปที่ตั้งอยู่ข้างๆ โรงพยาบาลนั้น เราจะพบกับโครงการคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นสะดุดตามากๆ นั่นคือ The Monument Sanampao ซึ่งโครงการนี้จะมีความพิเศษอย่างไรต้องขอเก็บเอาไว้ก่อน เพราะเราจะเดินสำรวจสถานที่น่าสนใจที่อยู่ใกล้ๆ นี้กันต่อ

ถัดมาจะเป็นหนึ่งในคอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ของสนามเป้าเลย นั่นก็คือศูนยการค้า The Season Mall  ที่ข้างในนั้นก็เต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง รวมถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ให้เลือกซื้อของใช้เข้าบ้านกันได้อย่างสะดวก

ย้อนกลับมาทางใกล้ BTS สนามเป้า เส้นที่จะเดินไปทางย่านอารีย์ จะมีร้าน Pub & Restaurant ชื่อดัง “Overseoul BKK” ที่จริงจังทั้งในเรื่องของอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติเกาหลีที่จัดหนัก จัดเต็ม เรียกได้ว่าสายโอปป้า นูน่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านเริ่มเปิดทำการตั้งแต่เวลา 18.00น – 01.00น.

สำหรับใครที่มองหามื้อกลางวันหรือดินเนอร์สไตล์ญี่ปุ่นที่หนักท้องขึ้นมาอีกซักนิด ลองมองไปยังฝั่งตรงข้ามของ BTS สนามเป้าฝั่งประตูทางออกที่ 4 เราก็จะพบกับรูปปั้นของโกคู พระเอกของเรื่อง DragonballZ ตั้งตระหง่านอยู่หน้าร้านทงคัทสึชื่อดังอย่าง “Bekku” ที่โดดเด่นในเรื่องของหมูทอดกรอบนอก นุ่มใจ ราดซอสชุ่มฉ่ำ ทานพร้อมกับข้าว กระหล่ำ และเครื่องเคียงอีกมากมายที่เติมได้อย่างไม่อั้น เรียกว่าเข้ามาร้านนี้ไม่อิ่มแปร้กลับบ้านก็ให้มันรู้ไป

เมื่อลองเดินทางจากถัดจาก BTS สนามเป้ามาอีกซักหน่อย ขอแนะนำให้ลองเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยพหลโยธิน 5 กันซักนิด เพราะในซอยแห่งนี้เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารชั้นดีที่รอให้เราเข้ามาสำรวจอีกมากมายเลยทีเดียว ซึ่งร้านแรกที่โดดเด่นสะดุดสายตาเราอย่างมากก็คือคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า “Common Room x Ari” ซึ่งตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่เน้นความโดดเด่นเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบและเมล็ดกาแฟ เหมาะมากสำหรับเข้ามานั่งพักจิบเครื่องดื่มให้หายเหนื่อยก่อนจะออกเดินสำรวจต่อ

ถัดมาให้ลองมองไปยังฝั่งตรงข้าม เราก็จะพบกับร้านเนื้อย่างสำหรับคนเมืองที่ชื่อว่า “Butcher Beef & Beer” ที่เพียงแค่เพียงมองร้านจากบริเวณภายนอกต้องสะดุดตากับไอเดียเก๋ๆ จากการนำตู้คอนเทนเนอร์มาแปลงโฉมให้กลายเป็นร้านค้าแบบสไตล์ดิบๆ แต่ดูดี ที่สำคัญก็คือที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับคนชอบทานเนื้อย่างโคขุนสไตล์ไทยที่จัดจ้าน ยิ่งได้จิบเบียร์เย็นๆ ควบคู่ไปด้วยก็ฟินไม่หยอก

ยิ่งเดินทางตัดซอยพหลโยธิน 5 ลึกเข้าไปในซอยอารีย์ 1 (หรือซอยราชครู) เราก็จะยิ่งพบกับร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ อีกมากมายที่อาจจะอธิบายได้ไม่หมด แต่หนึ่งในร้านอาหารที่เราอยากจะพาทุกคนไปแนะนำนั่นก็คือร้าน “บ้านแม่ยุ้ย” ร้านอาหารไทยสไตล์โคซี่ที่ให้บรรยากาศอันอบอุ่นราวกับได้นั่งทานในบ้าน ที่สำคัญก็คืออาหารที่ให้บริการภายในร้านจะเป็นอาหารไทยตำรับโบราณที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับพาครอบครัวหรือผู้สูงอายุมาทานมากๆ

อีกร้านนึงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย แม้ว่าจะต้องเดินทางมาไกลจนเกือบจะทะลุซอยอารีย์ 1 มาจนถึง BTS อารีย์ นั่นก็คือร้านที่ชื่อว่า “อองตอง ข้าวซอย” ที่แน่นอนว่าชื่อชัดซะขนาดนี้ก็ต้องขายข้าวซอย ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคเหนืออย่างแน่นอน ที่สำคัญก็คือร้านนี้พึ่งจะได้ติดอันดับ Michelin Bib Gourmand ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยาของกรุงเทพฯ ในปี 2019 อีกด้วย เรียกได้ว่าใครที่มาแถวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด

และที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมด ก็เรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความน่าสนใจที่มีในย่านสนามเป้า - อารีย์ แห่งนี้เท่านั้น เพราะเราอยากจะบอกว่าพื้นที่แถบนี้ยังคงมีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่สุดเก๋สถานที่ใหม่เกิดขึ้นเป็นระยะ จนเรียกได้ว่ามีไลฟสไตล์ใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ค้นหาอยู่ตลอด

The Monument สนามเป้า ทางเลือกอันเหนือระดับของการอยู่อาศัยในย่านนี้

หลังจากที่ได้เดินสำรวจร้านรวงที่น่าสนใจในโซนสนามเป้าไปจนถึงย่านอารีย์แล้ว เราลองถือโอกาสย้อนกลับมาที่โครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจที่ตั้งอยู่ติดกับโรงพยาบาลพญาไท 2 ที่ได้ผ่านตาไปแล้วในช่วงต้นของบทความกันดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้โครงการ The Monument สนามเป้า มีความน่าสนใจที่เราอยากจะพูดถึง มีอยู่หลายประการ เริ่มแรกเลยก็คือ “ทำเล” เนื่องจากสถานที่ตั้งของโครงการแห่งนี้อยู่บนเส้นพหลโยธินตอนต้น ซึ่งเรียกได้ว่าถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ตัวแรกที่มีให้เลือกในย่านนี้

ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในจุดเด่นของตัวโครงการก็คือความสะดวกสบายในการเดินทาง เนื่องจากทำเลที่ตั้งนั้นมีรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามเป้า เป็นจุดสัญจรหลักในการที่จะเข้าไปยังตัวเมือง โดยตัวสถานีเราก็จะสามารถเดินเท้ามาอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการแบบไม่ทันเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ

สำหรับโครงสร้างของตัวโครงการนั้น The Monument สนามเป้า เป็นคอนโดมิเนียมสูงทั้งหมด 24 ชั้น แต่มีเพียง 86 ยูนิตสำหรับที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งมีที่จอดรถให้กับลูกบ้าน 100% (ที่จอดรถมีตั้งแต่ชั้น 2-8) ยกเว้นห้อง Penthouse ที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน

ตั้งแต่เปิดประตูเข้าสู่ห้องล๊อบบี้ เราก็จะพบกับการตกแต่งในสไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary style) ที่ร่วมสมัย เรียบหรู แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เป็นโซฟาหนังแท้ที่สามารถใช้พักผ่อน นั่งเล่นได้อย่างสบายใจ รวมไปถึงงานดีไซน์และวัสดุที่เลือกใช้ตกแต่งตัวห้องก็ถูกคัดมาอย่างพิถีพิถัน

ที่สะดุดตาจนไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ นี่เป็นโครงการแรกๆ ของแสนสิริเลยที่ได้นำเอาหุ่นยนต์ที่ชื่อว่า “SANDEE” Delivery Robot มาใช้สำหรับขนส่งพัสดุไปรษณีย์ไปยังส่วนต่างๆ ของโครงการ หรือจะใช้สำหรับเสิรฟ์เครื่องดื่มให้แขกที่เข้ามาเยี่ยมในล๊อบบี้ก็ทำได้ด้วยนะ

สำหรับยูนิตส่วนของที่อยู่อาศัยนั้น จะเริ่มต้นที่ห้องขนาด 46.50 ตรม. ไปจนถึงห้อง Penthouse ที่มีขนาดถึง 140 ตรม. เลยทีเดียว ซึ่งดีไซน์ของห้องนั้นจะเน้นงานขายแบบ Fully Fitted โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เพดานของห้องปกติสูงถึง 2.9 เมตร และห้องเพนท์เฮ้าส์สูงถึง 3.5 เมตร ช่วยเพิ่มความรู้สึกโล่งโปร่งไม่อึดอัด จนแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม

เมื่อกดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 9 เราก็เกิดความตื่นตาตื่นใจมากมาย เพราะว่าโครงการ The Monument สนามเป้า ยกให้ทั้งชั้นนี้เป็นชั้นสำหรับ “The Monument Club” ซึ่งเป็นพื้นท่ี่ส่วนกลางที่ลูกบ้านสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่

โดยภายในชั้นนี้จะมีทั้งส่วนของเลาจน์ (Social Lounge) ห้องสมุด (Library) และห้องดื่มชา (Tea Room) สำหรับชวนเพื่อนๆ มาแฮงก์เอาท์หรือคุยงานกันได้อย่างเป็นส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นอินดอร์หรือเอาท์ดอร์

ห้องนวดผ่อนคลาย (Private Massage Room) ที่ลูกบ้านสามารถโทรนัดหมายเพื่อจองเวลาก่อนมาใช้บริการ ห้องดูภาพยนต์ (Theater Room) ที่ใช้ชุดเครื่องเสียงและทีวี LED ขนาด 75 นิ้วจากแบรนด์ Bang & Olufsen ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องเสียงและโทรทัศน์ไฮเอนด์ จากประเทศเดนมาร์กที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และห้องอเนกประสงค์ (Multipurpose Room) ที่ส่วนใหญ่มักจะถูกใช้สำหรับเล่นโยคะหรือออกกำลังกาย

ห้องนวดผ่อนคลาย (Private Massage Room) ที่ลูกบ้านสามารถโทรนัดหมายเพื่อจองเวลาก่อนมาใช้บริการ ห้องดูภาพยนต์ (Theater Room) ที่ใช้ชุดเครื่องเสียงและทีวี LED ขนาด 75 นิ้วจากแบรนด์ Bang & Olufsen

ถัดจากพื้นที่ส่วนกลาง เมื่อเรากดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 23 จะเป็นชั้นสำหรับพื้นที่ของสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ที่มีความโดดเด่นที่เราสามารถว่ายน้ำหรือนอนพักไปพร้อมกับชมทิวทัศน์ได้แบบ 270 องศา ซึ่งพื้นที่แถบนี้จะมีจุดเด่นตรงที่ไม่ค่อยมีอาคารสูงหนาแน่นเท่าใดนัก ทำให้สามารถชื่นชมกับทิวทัศน์ของเมืองกรุงเทพฯ ได้อย่างไม่มีอะไรบดบัง

และพื้นที่ส่วนกลางสุดท้ายซึ่งถือเป็นชั้นบนสุดของตัวโครงการนั้น ก็คือส่วนของ Fitness ที่ชั้น 24 ซึ่งจะเป็นชั้นลอยที่อยู่เหนือพื้นที่สระว่ายน้ำขึ้นไปอีกชั้นนึง แน่นอนว่าลูกบ้านก็สามารถชมวิวที่สวยงามไปพร้อมกับเล่นอุปกรณ์ออกกำลังกายได้อย่างสุนทรีย์ ทั้งยังมีสวนลอยฟ้า เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับผู้พักอาศัยด้วย

ความพิเศษของส่วนกลางที่แสนสิริเอาใจใส่ และใส่ลงในส่วนกลางอีกอย่างคือ solar cell หรือแผงวงจรไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมื่อได้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์แล้ว ก็นำไปเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้ในบริเวณส่วนกลาง ทำให้สามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 40,000 บาทต่อปีเลยครับ 

จะเห็นได้ว่า โครงการ The Monument สนามเป้า ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่มีขนาดที่ไม่ใหญ่นัก แต่ด้วยทำเลที่อยู่ใกล้กับแหล่งขนส่งสาธารณะ ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ ทั้งยังมอบพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มให้กับลูกบ้านได้ใช้ประโยนชน์กันแบบไม่มีกั๊ก ที่สำคัญก็คืออยู่ใกล้กับแหล่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลพญาไท 2 ที่อยู่ติดกัน โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลพระมงกุฎ

แน่นอนว่าด้วยทำเลที่อยู่ท่ามกลางโรงพยาบาลเหล่านี้ ทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับโครงการก็คือเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ระดับอาวุโสหรือเปล่าแพทย์เฉพาะทางที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งคนกลุ่มนี้ “เวลา” และ “ความสะดวกสบาย” คือปัจจัยสำคัญที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นการพิจารณาที่อยู่อาศัยของคนกลุ่มนี้ก็สิ่งหลักก็คือทำเลใกล้ที่ทำงาน ไม่เสียเวลาในการเดินทาง รวมถึงมีความหรูหราที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของต้นทุนที่ต้องจ่ายไปนั่นเองครับ

อยู่อาศัยที่ “สนามเป้า” หายห่วงเรื่องความสะดวกในการเดินทาง

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ทำเลของโครงการ The Monument สนามเป้า นั้นตั้งอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าใกล้กับอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ซึ่งมีความได้เปรียบตรงที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสถานที่อื่นได้ไม่ยาก เพราะโดยรอบของอนุเสาวรีย์ชัยฯ นั้นมีเส้นทางขนส่งสาธารณะให้ทั้งระบบรางและระบบรถให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า BTS สนามเป้า, สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุเสาวรีย์ฯ จุดรับส่งของรถตู้ที่สำหรับใช้เดินทางไปต่างจังหวัดได้ในราคาย่อมเยาว์ รวมไปถึงเส้นทางขับรถที่สามารถขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัช หรือจะขับออกไปยังเส้นวิภาวดีเพื่อไปยังสนามบินดอนเมืองก็ทำได้สะดวก แม้จะต้องคำนึงเรื่องของความหนาแน่นของการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนซักหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้ความสะดวกด้านระยะในการเดินทางลดลงแม้แต่น้อย 

ทำเล “สนามเป้า” อนาคตที่สดใสของไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ

สมัยก่อนเมื่อเราพูดถึงคำว่าสนามเป้า เราก็คงคิดถึงภาพของพื้นที่ของหน่วยงานรัฐและพื้นที่ของทหาร แต่ในปัจจุบันทำเลย่านนี้ได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างความเจริญของทั้งโซนอนุเสาวรีย์ชัยฯ ที่เป็นทั้งศูนย์กลางการเดินทางและห้างสรรพสินค้ากลางเมืองอย่างเซ็นเตอร์วัน โรงภาพยนตร์เซนจูรี่ และ King Power ลากยาวไปถึงโซนอารีย์ที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งธุรกิจซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานข้ามชาติมากมาย ยังไม่รวมไปย่านไลฟ์สไตล์อย่างคาเฟ่ ร้านอาหาร คอมมิวนิตี้มอลล์ ฯลฯ ทำให้สนามเป้ากลายเป็นหนึ่งในทำเลทองคำที่หากใครได้มีโอกาสครอบครองเป็นที่อยู่อาศัย ก็สามารถสร้างความสะดวกในการใช้ชีวิตรวมไปถึงต่อยอดด้านการลงทุนให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากความเป็นจุดกึ่งกลางของความเจริญและการเดินทางแล้ว สนามเป้า ยังเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เป็นแหล่งรวมของโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลหรือของเอกชน สถาบันการศึกษาทางการแพทย์อีกมากมาย ซึ่งหมายถึงจำนวนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็นจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในแถบนี้ก็จะต้องมีจำนวนที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัว และแน่นอนว่ายิ่งมีจำนวนคนกลุ่มนี้มาก กำลังซื้อและกำลังการเช่าอสังหาริมทรัพย์ก็ย่อมที่จะต้องมีมาก เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องกำลังทรัพย์ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือเวลาในการพักผ่อนและความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นหลัก

สรุปแล้วก็คือ คนที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์สำหรับลงทุนไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยหรือการปล่อยเช่า ถ้าหากมีโครงการใดสามารถตั้งหลักแหล่งในโซนของสนามเป้าได้ (อย่างโครงการ The Monument สนามเป้า ที่เราได้ไปสำรวจมา) ก็จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลากรด้านสาธารณสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการระดับกลางค่อนไปทางสูงหรือแตะระดับ Luxury ก็ไม่มีปัญหาในการมองหาผู้ซื้อหรือผู้เช่าเพราะดีมานด์ยังคงมีอยู่ตลอด ยังไม่รวมถึงการที่พื้นที่แถบนี้ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้อีกในอนาคต ทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านสนามเป้ามีความคุ้มค่าน่าพิจารณาอยู่เสมอนั่นเองครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหา ซื้อหรือเช่าคอนโดมิเนียมซักห้อง เรา บริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ รับฝากขายปล่อยเช่า พร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ หากสนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ทำให้จังหวะชีวิตคุณสุดได้ไม่สะดุด สามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่  02 688 7555,  LINE: @plusproperty หรือ คลิกที่นี่